ขายประกัน ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน ประกันตลอดชีพ ประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี ลดหย่อนภาษีสูงสุด ประกันบำนาญ
ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกรณีสร้างราคาหุ้น UKEM
วันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2557 | ฉบับที่ 155 / 2557
ก.ล.ต. เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบผู้กระทำผิด 10 ราย ได้แก่? (1) นางสาวอำไพ รัตนนาวิน? (2) นางสาวศรีอุบล อินทรอำนวย? (3) นางสาวปรีชญา วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ (ปัจจุบันนามสกุล ทีฆาสุรัตน์)? (4) นางสาวนงลักษณ์ (ปัจจุบันชื่อ พันธุ์วดี) พานิชยาภรณ์? (5) นายบดินทร์ เหลืออรุณ? (6) นายสุพร บุญทรง (7) นางสาวศิริพร เกศเกษี? (8) นายวีรยุทธ แซ่อึ้ง? (9) นางสาวน้ำค้าง ฉันทชาติ และ (10) นายสินโชค ศรินนภากร กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัทยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) (UKEM) เป็นจำนวนเงินรวม 19,948,269.33 บาท
ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2551 นางสาวอำไพ นางสาวศรีอุบล นางสาวปรีชญา นางสาวนงลักษณ์ นายบดินทร์ และบุคคลอีก 4 ราย ได้แก่ นายพรเทพ ถาวรวิสุทธิกุล นางสาวอารดา เลิศภิญโญภาพ นายนฤพล ฉัตรเฉลิมวิทย์ และบุคคลไม่ทราบชื่อ 1 ราย ซึ่ง ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคล 4 รายนี้ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2557 แล้ว? ได้รู้เห็นหรือตกลงร่วมกันสร้างราคาหุ้น UKEM? ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลรวม 7 บัญชี โดยร่วมกันทำการซื้อขายหุ้น UKEM อย่างต่อเนื่องในลักษณะอำพราง ผลักดันและพยุงราคา จับคู่กันเองระหว่างบัญชี รวมทั้งทำราคาปิดจาก 2.60 บาทต่อหุ้นในวันที่ 18 กรกฎาคม 2551 มาปิดที่ 6.20 บาทต่อหุ้นในวันที่ 20 สิงหาคม 2551 เพิ่มขึ้น 3.60 บาท หรือร้อยละ 138.46? ทำให้การซื้อขายหุ้น UKEM ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาและปริมาณซื้อขายหุ้น UKEM และเข้าซื้อขายหุ้นดังกล่าว โดยได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากนายสุพร นางสาวศิริพร นายวีรยุทธ นางสาวน้ำค้าง นายสินโชค และบุคคลอีก2 ราย ได้แก่ นายประยุทธ์ เลิศภิญโญภาพ นางสาวกรุณา แก้วมณี ซึ่งบุคคลทั้ง 2 รายนี้ ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วเช่นกันเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2557 เนื่องจากไม่ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ
การกระทำของนางสาวอำไพ นางสาวศรีอุบล นางสาวปรีชญา นางสาวนงลักษณ์ และนายบดินทร์ เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และการกระทำของนายสุพร นางสาวศิริพร นายวีรยุทธ นางสาวน้ำค้าง และนายสินโชค? เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนางสาวอำไพ นางสาวปรีชญา และนางสาวนงลักษณ์ รายละ 500,000 บาท? นางสาวศรีอุบลและนายบดินทร์ เป็นเงิน 6,216,808.65 บาท และ 10,564,794.03 บาท ตามลำดับ และนายสุพร นางสาวศิริพร นายวีรยุทธ นางสาวน้ำค้าง และนายสินโชค รายละ 333,333.33 บาท
ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกรณีสร้างราคาหุ้น PERM
วันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2557 | ฉบับที่ 156 / 2557
ก.ล.ต. เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบนายเสริมเกียรติ กังเสถียร นายวิเชียร เอื้อศิริพันธ์ และนายประทีป วงศ์กุลนิษฐ์ กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัทเพิ่มสิน สตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) (PERM) เป็นจำนวนเงินรวม 2,074,121.25 บาท
ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบพบว่า สภาพการซื้อขายหุ้น PERM ที่ผิดปกติอันเนื่องมาจากการซื้อขายของบุคคลกลุ่มหนึ่ง เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2556 เกิดจากนายเสริมเกียรติ นายวิเชียร และนายประทีป ได้รู้เห็นหรือตกลงกันใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง ซื้อขายหุ้น PERM ในลักษณะต่อเนื่อง ผลักดันราคา และส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อจับคู่กันเองระหว่างบัญชีโดยสลับกันทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อ-ผู้ขาย ในลักษณะอำพราง ทำให้การซื้อขายหุ้น PERM ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาและปริมาณซื้อขายหุ้น PERM และเข้าซื้อขายหุ้นดังกล่าว
การกระทำของนายเสริมเกียรติ นายวิเชียร และนายประทีป เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายเสริมเกียรติ เป็นเงิน 1,074,121.25 บาท นายวิเชียร และนายประทีป เป็นเงินรายละ 500,000 บาท
ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกรณีสร้างราคาหุ้น SSI
วันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2557 | ฉบับที่ 157 / 2557
ก.ล.ต. เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบนายอานนท์ชัย วีระประวัติ กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) เป็นจำนวนเงิน 768,925 บาท
ก.ล.ต. ขายประกัน ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2556 นายอานนท์ชัยได้ซื้อขายหุ้น SSI จำนวน 130.12 ล้านหุ้น ด้วยการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตในลักษณะต่อเนื่องกันทั้งสิ้น 299 คำสั่ง ทั้งนี้ หุ้น SSI เปิดตลาดซื้อขายในวันดังกล่าวที่ราคา 0.37 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจนเมื่อนายอานนท์ชัยเข้าซื้อขาย ราคาหุ้น SSI ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดของวันที่ 0.41 บาท คิดเป็นร้อยละ 10.81 เมื่อเทียบกับราคาเปิด หรือเพิ่มขึ้น 0.05 บาท คิดเป็นร้อยละ 13.88 เมื่อเทียบกับราคาปิดของวันก่อนหน้าที่ 0.36 บาท และเมื่อนายอานนท์ชัยหยุดการซื้อขาย ราคาหุ้น SSI ปรับลดลงไปปิดที่ 0.38 บาท สำหรับปริมาณการซื้อขายหุ้น SSI ตั้งแต่เปิดตลาดจนก่อนช่วงเกิดเหตุมีเพียง 0.75 ล้านหุ้น แต่เมื่อนายอานนท์ชัยเข้ามาซื้อขาย ปริมาณการซื้อขายรวมของหุ้น SSI เพิ่มขึ้นเป็น 335.10 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 87.11 ของปริมาณซื้อขายรวมของวัน โดยเป็นของนายอานนท์ชัยจำนวน 130.12 ล้านหุ้น และหลังจากที่นายอานนท์ชัยหยุดซื้อขาย ปริมาณซื้อขายหุ้น SSI เหลือเพียง 48.85 ล้านหุ้น
การกระทำของนายอานนท์ชัยดังกล่าวทำให้การซื้อขายหุ้น SSI ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามีผู้ต้องการซื้อขายหุ้น SSI ในช่วงเวลานั้นเป็นจำนวนมากและเข้าซื้อขายตาม เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายอานนท์ชัย เป็นเงิน 768,925 บาท
อนึ่ง นายอานนท์ชัย เคยกระทำผิดกรณีสร้างราคาหลักทรัพย์มาก่อน คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้พิจารณาเปรียบเทียบปรับกรณีนี้โดยมีเหตุเพิ่มโทษด้วย
ก.ล.ต. ผ่อนคลายให้ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ซื้อขายหลักทรัพย์อ้างอิงได้
วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2557 | ฉบับที่ 162 / 2557
ก.ล.ต. อนุญาตให้ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์บริหารความเสี่ยงได้คล่องตัวยิ่งขึ้น โดยผ่อนคลายให้ซื้อขายหลักทรัพย์อ้างอิงของหลักทรัพย์ที่ตนรับจัดจำหน่ายได้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบการแก้ไขหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ โดยเปิดให้ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์สามารถซื้อขายหลักทรัพย์อ้างอิงของหลักทรัพย์ที่ตนเป็นผู้จัดจำหน่ายเพื่อบริหารความเสี่ยงได้ หากมีฐานะหรือเป็นผู้ออกสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์นั้นอยู่ก่อนแล้ว หรือหากหลักทรัพย์อ้างอิงนั้นเป็นหุ้นใน SET 50 หรือ SET 100 ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ต้องมีระบบป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงานให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ และสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. สนับสนุนให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเพียงพอและต่อเนื่อง โดยกำหนดให้ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีส่วนในการกำหนดราคา (Lead Underwriter) ต้องออกบทวิเคราะห์หุ้นที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นรายไตรมาสติดต่อกันอย่างน้อย 4 ไตรมาส ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาผู้ลงทุนขาดข้อมูลบทวิเคราะห์หุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่มักจะไม่ออกบทวิเคราะห์หุ้นของบริษัทดังกล่าว
เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)
ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว
คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วิพุธ อ่องสกุล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า ยินดีและขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญจาก ก.ล.ต.ให้เข้าร่วมฟอรัมนี้ และเราเชื่อมั่นว่า จะเกิดการแลกเปลี่ยนความคิดและการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ในอนาคต ในโอกาสที่นิด้าจะครบรอบ 50 ปี เราได้กำหนดหัวข้อหลักเป็นเรื่อง?Sustainability Development for Thai Economy and Financial Market? ที่เป็นความร่วมมือจากทุกคณะในนิด้ากับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ และเราจะนำผลงานวิจัยหัวข้อนี้ มานำเสนอในฟอรัมนี้เป็นเวทีแรก
โครงการ SEC Working Papers Forum เริ่มเปิดเวทีนำเสนอผลงานวิจัยเป็นครั้งแรกในวันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2557 ภายใต้ประเด็น ?การออมเพื่อการเกษียณอายุ?โดยคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุม 1601 ชั้น 16 อาคารสำนักงาน ก.ล.ต. ถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งนี้ การนำเสนอผลงานวิจัยในประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆ จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน โดยมีสถาบันการศึกษาทั้ง 4 แห่งหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพร่วมกับ ก.ล.ต. ผู้สนใจเข้าร่วมฟังการนำเสนอผลงานวิจัยสามารถลงทะเบียนทางอีเมลล์ได้ที่ secworkingpaper@sec.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเกณฑ์แก้ไขฐานะการเงินเพื่อดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ
วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2557 | ฉบับที่ 98 / 2557
ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะปรับปรุงข้อกำหนดสำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่กำลังประสบปัญหาฐานะเงินกองทุน (prudential risk) และไม่สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิได้ตามที่ประกาศกำหนด ซึ่งข้อกำหนดที่ปรับปรุงครอบคลุมถึงระยะเวลาในการแก้ไขเงินกองทุน การจำกัดการประกอบธุรกิจขณะอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขฐานะเงินกองทุน และการดำเนินการกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขฐานะเงินกองทุนได้ ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดโอกาสและผลกระทบที่อาจเกิดต่อลูกค้า คู่สัญญาของบริษัทหลักทรัพย์ และระบบตลาดทุนโดยรวม โดยหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่จะมีความทันสมัย สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติ
ก.ล.ต. เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) จึงขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร 0-2695-9930 หรือทาง e-mail ที่ kengkat@sec.or.th จนถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557
ก.ล.ต. ให้บริษัทไทยเสนอขายหุ้นใน ASEAN ได้โดยใช้แบบ filing ตามมาตรฐาน ASEAN
วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2557 | ฉบับที่ 99 / 2557
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) เพื่ออำนวยความสะดวกให้บริษัทไทยที่จะเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในประเทศและในประเทศสมาชิกอาเซียน ใช้แบบ filing ตามมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลอาเซียน (ASEAN Disclosure Standards) ได้ โดยเสนอขายพร้อมกันหรือในเวลาใกล้เคียงกันภายใต้กรอบ ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) ทำให้สามารถใช้แบบ filing ชุดเดียวกันยื่นต่อหน่วยงานกำกับตลาดทุนในแต่ละประเทศ โดยต้องจัดทำแบบ filing เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้มีข้อมูลไม่แตกต่างกันอย่างมีสาระสำคัญ รวมทั้งจัดทำข้อมูลสรุป (executive summary) และแจกจ่ายให้ผู้ลงทุนพร้อมใบจองซื้อ ตลอดจนให้กรรมการทุกคนลงนามรับรองความถูกต้องของแบบ filing ด้วย
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นภายใต้กรอบ ACMF หมายถึง การเสนอขายหุ้นในประเทศกลุ่มอาเซียนที่จะร่วมกันลงนามในข้อตกลง (“MoU”) เกี่ยวกับแนวทางการพิจารณาให้บริษัทออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียนตั้งแต่สองประเทศพร้อมกันหรือในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งคาดว่าไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะมีการลงนามใน MoU ดังกล่าวในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกณฑ์การจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล
วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2557 | ฉบับที่ 100 / 2557
ก.ล.ต. มีแนวคิดจะออกหลักเกณฑ์ตามมาตรา 315/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลแก่ผู้แจ้งข้อมูลการกระทำผิด ผู้นำจับ หรือผู้จับ ในกรณีที่มีการลงโทษปรับผู้กระทำความผิดฐานซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน และฐานสร้างราคาหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยหลักเกณฑ์ที่กำหนดมีสาระสำคัญเกี่ยวกับวิธีการแจ้งข้อมูลและการขอรับเงินสินบนหรือเงินรางวัล หลักเกณฑ์ในการพิจารณาผู้มีสิทธิขอรับเงินสินบน ขั้นตอนและวิธีการในการดำเนินการเพื่อให้มีการสั่งจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล สัดส่วนของเงินสินบนและเงินรางวัล และหลักเกณฑ์ในการรับเงินสินบนและเงินรางวัล เป็นต้น ทั้งนี้ กรรมการ ก.ล.ต. กรรมการกํากับตลาดทุน เลขาธิการ และพนักงาน ก.ล.ต. และ กรรมการ ผู้จัดการ และพนักงานตลาดหลักทรัพย์ หรือ ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ ไม่มีสิทธิได้รับเงินสินบนและเงินรางวัลตามมาตรานี้
ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) จึงขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร 0-2263-6404 หรือทาง e-mail ที่ nat@sec.or.th จนถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557
ก.ล.ต. เผยความก้าวหน้าในการประชุมความร่วมมือเพื่อพัฒนาตลาดทุนในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 3