ตัวแทนขายประกัน เมืองไทยประกันชีวิต ประกันบำนาญ ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน ประกันตลอดชีพ ประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี ลดหย่อนภาษีสูงสุด
จ่ายแล้วต้องคุ้ม : รวมรายจ่ายหลักร้อย
ช่วยเติมเต็มความสุขของชีวิต
ใครๆ ต่างก็ชอบออกมาบอกกันว่า ให้ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก จะช่วยให้เราเหลือเงินเก็บได้เยอะขึ้น แล้วถ้ารายจ่ายนั้นมันเป็นรายจ่ายที่ทำให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิตขึ้นล่ะ คุณจะยอมจ่าย หรือยอมตัดออกไป?
เราต่างก็รู้ดีอยู่ในใจแล้วหล่ะว่าค่าใช้จ่ายไหนที่จำเป็น ไม่จำเป็น แต่บางรายจ่ายที่ก็ดูยังไงก็เป็นรายจ่ายที่ตัดออกไปก็ได้ แต่ทำใจตัดไม่ลง และเลือกที่จะเสียเงินเพื่อใชัซื้อความสุขจากตรงนั้น เราก็มักจะจ่ายออกไปได้โดยไม่คิดอะไร เพราะการที่เราเสียเงินไปแล้วก็ควรที่จะต้องได้ความคุ้มค่ากลับมาด้วย เหตุผลในการจ่ายนั้นก็จะช่วยทำให้การเสียเงินหลักร้อยดูมีคุณค่าขึ้นมาทันที มาดูกันดีกว่ามีการรายจ่ายอะไรบ้างที่ถึงจะต้องเสียออกไปทุกเดือน แต่มันก็คุ้มกับการจ่ายออกไป
Music streaming จ่ายตังหนีโฆษณา เติมเต็มความสุนทรีย์
“ไม่อยากให้ความสุขต้องสะดุด ตัวแทนขายประกัน ให้มาใช้รายเดือนกับเราสิ….” ประโยคสุดคุ้นถ้าคุณฟังเพลงแบบไม่ได้เสียค่าบริการ ซึ่งเขาก็บอกอยู่ชัดเจนเลยทีเดียวว่าถ้าคุณอยากให้ความสุขอยู่กับคุณก็จ่ายเงินมา ซึ่งหลากคนก็เลือกที่จะจ่ายเงินในส่วนนี้เพื่อซื้อความต่อเนื่องในการได้ฟังเพลงที่ชอบ ของศิลปินที่รัก หรือใช้การฟังเพลงเป็นการผ่อนคลายระหว่างกับเพื่อหลีกหนีความน่าเบื่อของรถติด , ความจอแจในระบบขนส่งสาธารณะ จะว่าไปแล้วการฟังเพลงระหว่างเดินทางก็เหมือนการได้รีเซ็ตสมองและจิตใจของตัวเองก่อนต้องไปเผชิญกับโลกแห่งความจริง การจ่ายค่ารายเดือนในหลักร้อยให้ฟังระบบฟังเพลงนี้ จึงดูเป็นความคุ้มค่าที่ดีต่อใจเช่นกัน
Movie streaming จ่ายซื้อเวลาแห่งความสุข
ใช้ชีวิตมาตั้งแต่เช้า เข้าไปทำงานก็เจอกับความเครียด ช่วงเวลาเดียวที่เราจะได้ Relax คงเป็นช่วงหลังเลิกงานไปจนถึงก่อนนอนถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงมีละครหลังข่าวให้เราดู ให้พอได้มีเรื่องไปเม้ากับเพื่อนๆ ที่ทำงานได้ในวันพรุ่งนี้ แต่ตอนนี้ Lifestyle คนรุ่นใหม่มีตัวเลือกให้เราได้เสพความบันเทิงที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการดูหนังที่ตอนนี้ ไม่ต้องไปถึงโรงภาพยนตร์เราก็สามารถสนุกกับหนักเรื่องโปรดได้จากที่ไหนก็ได้ เพียงแค่เรามีอุปกรณ์อย่างมือถือหรือแท็บเล็ต การดูหนังออนไลน์กลายเป็นกิจกรรมยามว่างของคนยุคใหม่ไปโดยปริยาย วันไหนที่ไม่ได้ดูซีรีย์อาจจะมีอาการคล้ายเหมือนว่าไม่ได้กินกาแฟเลยทีเดียว ความบันเทิงที่หาง่ายจากปลายนิ้วของเราในการสไลด์หาหนักที่อยากดูใน App จึงทำให้เรามีความสุขขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเรา Enjoy กับการดูหนัง ก็ยิ่งเราให้เราไม่แคร์ที่จะต้องจ่ายเงินรายเดือนหลักร้อยในการเติมความสุขด้วยการดูหนังนี้ จ่ายง่ายดูหนังได้คุ้มทั้งเดือน
Fitness จ่ายเต็มทุกเดือน เพื่อสร้างสุขภาพ
รายจ่ายที่เอาใจสายสุขภาพได้คุ้มที่สุดคงหนีไม่พ้นค่า Fitness จ่ายทุกเดือน ได้เล่นจริงกี่วันอันนี้เดี๋ยวว่ากัน ขอให้ได้จ่ายเอาไว้ก่อนเป็นสบายใจ เพราะแค่ได้ไปบ้าง ไม่ไปบ้าง หรือบางคนไปเกือบทุกวัน สิ่งที่ได้กลับมาคือผลลัพท์ด้านสุขภาพที่ดีเยี่ยม การได้ออกกำลังยังไงก็ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้อยู่แล้ว บางคนใช้การออกกำลังกายเป็นการคลายเครียด ก็จะยิ่งช่วยเติมความสมบูรณ์ให้กับชีวิตได้ดีมากขึ้นไปอีก แถมตอนนี้พอเทรนรักสุขภาพ กลับมาฮิตอีกครั้ง ก็ยิ่งทำให้ตาม Fitness หลายที่มีโปรโมชั่น จ่ายไม่หลักเท่าแต่ก่อน เพียงหลักร้อยคุณก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้แล้ว ยิ่งเติมความรู้สึกแห่งความคุ้มค่ามากขึ้นเข้าไปอีก ช่วยให้จ่ายง่าย ง่ายสบายขึ้นเยอะ
จากรายจ่ายด้านบนที่เรายอมจ่ายเพื่อซื้อความสุขให้กับตัวเองนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นการจ่ายเพื่อแลกกับเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทั้งนั้น ถึงเวลาที่เราควรจะเลือกจ่ายเงินเพื่อซื้อความคุ้มค่าในอนาคตเอาไว้ด้วยโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้นแบบที่เหนือการควบคุมของเราได้ การใช้เงินเพื่อซื้อความคุ้มครองด้านโรคร้ายจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ยิ่งถ้าเราซื้อไว้ก่อน ซื้อได้ไว ก็ยิ่งเพิ่มเปอร์เซนต์ความอุ่นใจในชีวิตให้เพิ่มมากขึ้น ยิ่งวัยทำงานโอกาสเจอความเครียด เจอกับสิ่งเร้าที่เป็นตัวกระตุ้นมะเร็งได้ง่าย
เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ตลาดทุนไทยเดินหน้ายกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดี
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2558 | ฉบับที่ 120 / 2558
ตลาดทุนไทยพร้อมเดินหน้ายกระดับการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักสากลฉบับใหม่ที่นำเสนอในการประชุม 2015 OECD-Asian Roundtable on Corporate Governance จัดโดย ก.ล.ต. ร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (ไอโอดี) โดยความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคม 2558 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โดยมีผู้บริหารระดับสูงและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 150 คน เข้าร่วมการประชุม
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ?ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างจริงจัง ซึ่งความสำเร็จที่ผ่านมา อาทิ ผลสำรวจ ASEAN CG Scorecard ที่บริษัทจดทะเบียนไทยสามารถพัฒนาการปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการตามมาตรฐาน ASEAN ได้เป็นอย่างดี และครองสถานะความเป็นผู้นำในภูมิภาค 3 ปีต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ล้วนมาจากความร่วมมือในทุกภาคส่วน โดย ก.ล.ต. ร่วมกับ ตลท. และไอโอดี ได้จัดทำคู่มือหรือแนวปฏิบัติในแต่ละเรื่องให้แก่บริษัทจดทะเบียน รวมทั้งริเริ่มโครงการต่างๆ เพื่อผลักดันการดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม อาทิ การปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในแบบ 56-1และรายงานประจำปีที่เน้นเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น การส่งเสริมความรู้ประสบการณ์ให้แก่กรรมการตรวจสอบเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง การผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมโครงการแนวร่วมปฏิบัติเพื่อการต่อต้านการทุจริตของภาคเอกชน?
?การปรับปรุงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ OECD จะช่วยสร้างพัฒนาการใหม่ๆ เกี่ยวกับบรรษัทภิบาลในตลาดทุนไทย ซึ่งต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจและประโยชน์สุขให้ประชาชน สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ในพัฒนาตลาดทุนที่ยั่งยืนของ ก.ล.ต.? นายรพีกล่าว
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ?ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนนำหลัก Good Governance ตามแนวทางของ OECD ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยและ บจ. ไทยได้การยอมรับในระดับสากลว่ามีพัฒนาด้าน CG ที่ดีขึ้นและโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมุ่งส่งเสริมให้ บจ. ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นแผนงานสำคัญหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วม UN Sustainable Stock Exchange Initiative (SSE initiative) เป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน?
?ในปีนี้ OECD ได้ปรับปรุงหลักการกำกับดูแลกิจการให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญเรื่องบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ เช่น เรื่องการตรวจสอบ การบริหารความเสี่ยง การกำหนดค่าตอบแทน รวมไปถึงการประเมินตนเอง รวมทั้งการที่ผู้นักลงทุนสถาบันควรให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามหลัก CG ของ บจ. โดยใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินใจลงทุน โดยข้อพึงปฏิบัติเหล่านี้สอดคล้องกับสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งเสริมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนได้ปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาโดยตลอด และจะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของ บจ. ไทยและตลาดทุนไทย? นางเกศรากล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุดตลาดทุนไทยได้รับเกียรติจาก OECD ให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุม Asian Roundtable ประจำปี 2558ระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคม 2558 ซึ่งได้มีการหารือแนวทางและความร่วมมือในการสนับสนุนการพัฒนาการกำกับ ดูแลกิจการที่ดีในภูมิภาค ปัญหาและอุปสรรคที่ท้ายทาย กรณีศึกษาจากประเทศต่างๆ แล้ว รวมทั้งนำเสนอ ?หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีฉบับปรับปรุงใหม่? ซึ่ง OECD ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจและตลาดทุนโลก และเป็นหนึ่งในมาตรฐานสำคัญที่ได้รับการอ้างอิงเป็นแนวทางพัฒนาและประเมินการบรรษัทภิบาลในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับปรุงเกณฑ์เกี่ยวกับการเสนอขายหุ้น PO
วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2558 | ฉบับที่ 121 / 2558
ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงเกณฑ์การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน (public offering: PO) ของบริษัทจดทะเบียน เพื่ออำนวยความสะดวกให้บริษัทจดทะเบียนที่เป็นกลไกหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถระดมทุนได้รวดเร็วขึ้นและมีต้นทุนต่ำลง โดยบริษัทจดทะเบียนที่ไม่เคยมีประวัติการกำกับดูแลกิจการที่ไม่เหมาะสม และเสนอขายหุ้นในราคาตลาดในช่วงที่เสนอขาย จะใช้เกณฑ์การเสนอขายหุ้น PO ที่ผ่อนปรนกว่าเดิม โดยเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ครอบคลุมสาระสำคัญ ดังนี้
1) การอนุญาต ปรับปรุงให้ยื่นคำขอ PO แบบง่าย เพื่อตรวจสอบว่าไม่เคยมีประวัติการกำกับดูแลกิจการที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่เคยมีประวัติถูกสั่งให้แก้ไขงบการเงิน ไม่เคยมีข่าวเตือนผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยจะแจ้งผลการพิจารณาภายใน 5 วันทำการ
2) การยื่นแบบ filing ปรับลดระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของแบบ filing จากเดิม 14 วัน เป็น 5 วัน ทำการ และไม่จำเป็นต้องมีที่ปรึกษาทางการเงินเป็นผู้ร่วมจัดทำเอกสาร
3) อัตราค่าธรรมเนียม หากเข้าเงื่อนไขการยื่นคำขอ PO แบบง่าย จะชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ 50,000 บาท และได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นแบบ filing
ทั้งนี้ ก.ล.ต. เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.(www.sec.or.th) จึงขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร 0-2695-4623 หรือทาง e-mail ที่ corporat@sec.or.th จนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการผ่อนคลายเกณฑ์การลงทุนของกองทุนรวมที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2558 | ฉบับที่ 122 / 2558
ก.ล.ต. มีแนวคิดผ่อนคลายเกณฑ์เกี่ยวกับการลงทุนของกองทุนรวมที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย เพื่อเตรียมความพร้อมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มีศักยภาพในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเสนอขายกองทุนที่มีความหลากหลายได้เช่นเดียวกับกองทุนที่เสนอขายในต่างประเทศและเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนและสร้างความคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน ก.ล.ต. จะผ่อนคลายเกณฑ์ให้กองทุนรวมที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย สามารถลงทุนในทรัพย์สินทางการเงินได้ทุกประเภท และไม่กำหนดอัตราส่วนการลงทุน (เช่นเดียวกับ hedge fund) นอกจากนี้คุณสมบัติของผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนในกองทุนดังกล่าวจะถูกกำหนดให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของกองทุนนั้น
ทั้งนี้ ก.ล.ต. เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) จึงขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร 0-2695-4629 หรือทาง e-mail ที่ puttikul@sec.or.th จนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับเกณฑ์ผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยใช้มติผู้ถือหุ้น
วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม 2558 | ฉบับที่ 113 / 2558
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงกระบวนการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการ (whitewash) และหลักเกณฑ์อื่น ๆ เกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
การเสนอปรับปรุงเกณฑ์ในครั้งนี้ มิได้เป็นการแก้ไขหลักการสำคัญ หรือหน้าที่หลักเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ แต่เป็นไปเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในทางปฏิบัติและปรับปรุงข้อกำหนดให้สอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น โดยยึดหลักการทำให้ผู้ถือหุ้นมีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจเกี่ยวกับบริษัท และได้ผ่านการเปิดรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม (focus group) มาแล้วชั้นหนึ่ง
ทั้งนี้ ในการเสนอปรับเกณฑ์ whitewash ในครั้งนี้ ซึ่งจะมีเรื่องการนับรวม concert party การปรับปรุงการดำเนินการกับบุคคลที่ผิดเงื่อนไขการผ่อนผันให้ทำคำเสนอซื้อ เป็นต้น ยังมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์อื่น ๆ เกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เช่น ข้อกำหนดให้ที่ปรึกษาการเงินที่ประเมินมูลค่าหุ้นในการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ ต้องเป็นอิสระจากบริษัทที่ต้องการเพิกถอนและผู้ทำคำเสนอซื้อ เป็นต้น
ก.ล.ต. เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) จึงขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร 0-2263-6099 หรือทาง e-mail ที่ corgov@sec.or.th จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2558
ก.ล.ต. เผยจะอิงพฤติกรรมผู้ลงทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจกองทุนรวมมากขึ้น
วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2558 | ฉบับที่ 114 / 2558
ก.ล.ต. เผยจะกำกับและพัฒนาธุรกิจกองทุนรวมโดยจะพิจารณาจากพฤติกรรมผู้ลงทุนมากขึ้น เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน หลังพบพฤติกรรมผู้ลงทุนไม่ได้ใช้เหตุผลเป็นสิ่งเดียวในการตัดสินใจลงทุน
นางดวงมน จึงเสถียรทรัพย์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ได้ศึกษาพฤติกรรมผู้ลงทุนภายใต้ทฤษฎีทางการเงินเชิงพฤติกรรม (behavioral finance) ซึ่งพบว่าผู้ลงทุนไม่ได้ใช้เหตุผลเป็นสิ่งเดียวในการตัดสินใจลงทุน แต่ยังมีปัจจัยอื่น เช่น อารมณ์ ความเชื่อ และทัศนคติส่วนตัว อาทิ ชอบความมั่นคงให้เงินต้นอยู่ครบ คุ้นเคยกับเงินฝาก ชอบเล่นสั้นได้ผลตอบแทนแน่นอน ชอบของแจกของแถม ไม่ชอบอ่านรายละเอียดของสินค้า ซึ่งเป็นโจทย์ที่สำคัญที่ ก.ล.ต. จะนำมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจกองทุนรวม เพื่อให้สินค้าและบริการสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ลงทุนพร้อมกับการได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสม
?ก.ล.ต. จึงกำหนดเกณฑ์ให้ผู้ขายต้องจัดให้ลูกค้าทำแบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุนหรือการทำธุรกรรม (suitability test) ก่อนเพื่อให้เข้าใจความเสี่ยงและได้รับคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสม รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนพร้อมการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับกองทุนในกลุ่มเดียวกัน และการเปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการผ่านเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ? ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีกองทุนรวมหลายประเภทที่พัฒนาจากพฤติกรรมผู้ลงทุน อาทิ กองทุนรวมควบประกัน และทริกเกอร์ฟันด์ ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายเลิกกองเมื่อได้ระดับผลตอบแทนจุดหนึ่งตามกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งช่วงที่ผ่านมาบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มีการออกทริกเกอร์ฟันด์เสนอขายต่อผู้ลงทุนจำนวนมาก จากสถิติตั้งแต่ปี 2556 พบว่าทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในประเทศจำนวน 135 กอง สร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายภายในเวลาไม่เกิน 1ปี จำนวน 48 กอง หรือประมาณ 36% โดยทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในประเทศเฉพาะที่ออกในปี 2558 ยังไม่พบว่ามีกองใดสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย ส่วนกองที่ไปลงทุนในต่างประเทศจำนวน 132 กอง สร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายภายในเวลาไม่เกิน 1ปี จำนวน 53 กอง หรือประมาณ 40% นอกจากนี้ ยังพบว่าทริกเกอร์ฟันด์มีการเก็บค่าธรรมเนียมแพงกว่ากองทุนรวมทั่วไป โดยค่าธรรมเนียม(total expense ratio: TER) ของทริกเกอร์ฟันด์อยู่ระหว่าง 1.12-4.5% เฉลี่ยอยู่ที่ 2.8% ในขณะที่กองทุนหุ้นโดยทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8%
>> เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
>> เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
>> เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)
ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว
คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย