ที่ปรึกษาประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ตะกาฟุลเมืองไทย ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ประกันโรคร้ายแรง สร้างมรดก ประกันชีวิตเพื่อสร้างมรดก
เตรียมตัวให้พร้อม ก็ไม่ต้องห่วงมะเร็งใกล้ตัว
ไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตของคุณทุกวันนี้เป็นยังไงกันบ้าง? บางคนติดนิสัยกินดึก บางคนชื่นชอบการเล่นกีฬาเอาท์ดอร์ บางคนขึ้นชื่อว่าเป็นอินตราแกรมเมอร์ ผู้รักการถ่ายรูปคุมโทนไม่หวั่นแม้วันแดดแรงเพื่อให้ได้รูปสวยๆ และในขณะที่บางคนต้องเผชิญกับการใช้ชีวิตบนการจราจรอันคับคั่งอยู่ตลอดเวลา
จนอาจลืมไปแล้วว่ากำลังมีบางสิ่งค่อยๆ จู่โจมคุณทีละนิดๆ จากมลภาวะที่ต้องเจอเช่น แสงแดด ฝุ่นควัน และพฤติกรรมการกินอาหาร ที่เป็นสาเหตุของโรคที่มีชื่อว่า “มะเร็ง” นั้นเอง
เจ้ามะเร็งตัวร้ายนี่มันอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด และพร้อมจะทำลายชีวิตเราให้ย่ำแย่ ในยามที่เราไม่ทันตั้งตัว เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต ในอัตราที่สูงกว่าการเกิดอุบัติเหตุเฉลี่ย 2 – 3 เท่าเลยทีเดียว และจากสถิติภาพรวมของประเทศไทยพบว่า “โรคมะเร็ง” ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 โดยคิดเป็น 16% ของการเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากๆ ใกล้ตัวขนาดนี้ เรามามาดูกันดีกว่าว่ามีมะเร็งประเภทไหนบ้าง ที่เรามีโอกาสเป็นได้ง่าย จะได้รู้เท่ากัน และป้องกันไว้ก่อน
ท็อปชาร์ต 5 อันดับมะเร็งยอดฮิต ที่คุณไม่คิดอยากจะเป็น
อันดับ 1 สำหรับชีวิตที่ต้องเป็นคนของสังคม มีตี้ที่ไหนก็ต้องมีคุณอยู่ที่นั่น! ไม่มีคำว่าปฏิเสธ จนลืมไปแล้วว่า เอ้.. เดือนๆ นึงนี่เราดื่มไปแล้วกี่ครั้งกันนะ? การใช้ชีวิตให้สุด ดื่มบ่อย ดื่มหนัก จนเรียกได้ว่าคอทองแดงแบบนี้ “มะเร็งตับ” อาจถามหาคุณได้ไม่รู้ตัว
เพราะระยะแรกของมะเร็งตับ จะไม่ค่อยแสดงอาการใดๆ ส่วนมากจะรู้ตัวกันในช่วงระยะท้ายของโรคแล้ว เห็นมาเงียบๆ แบบนี้แต่ร้ายมากนะจ๊ะ หลายๆ คนมารู้ตัวอีกทีก็ตรวจเจอมะเร็งตับ ระยะสุดท้ายซะงั้น จนได้รับสมญานามว่า “มะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับ 1” โดยเฉพาะชายไทย ตามนิสัยคนชอบสังสรรค์
อันดับ 2 ใครอาศัยอยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพ การเดินทางไม่ว่าจะด้วยบีทีเอส รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับวิกฤติ PM 2.5 ที่เป็นสาเหตุของ “มะเร็งปอด” ที่หลายๆ คนมองข้าม เจ้ามะเร็งตัวนี้ที่ไม่เคยทิ้งเบาะแสไว้ระหว่างทาง เพราะมันมาในรูปแบบของมลภาวะในอากาศที่เราแทบจะมองไม่เห็น เช่น ฝุ่นจิ๋วขนาด PM 2.5 แร่ใยถ่านหิน แก๊สและสารเคมีต่างๆ นั้นเอง
การป้องกันตัวเองอย่างการใส่หน้ากากกรองอากาศ คงช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไร เพิ่มความสบายใจไว้ก่อน ด้วยประกัน แถมค่าเบี้ยประกันความคุ้มครองโรคมะเร็ง ยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ ตามที่สรรพากรกำหนดไม่เกิน 25,000 บาทด้วย
หากใครยังนึกไม่ออกว่าอันตรายแค่ไหน ลองมาดูสถิติกัน จากรายงานค่า PM 2.5 ที่ผ่านมา มีค่าสูงถึง 163 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นั้นก็แปลว่าคนกรุงเทพได้รับพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กดังกล่าว ในปริมาณเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ คนละ 7.4 มวนต่อวันเลยทีเดียว อย่างที่รู้กันวิกฤติ PM 2.5 จะกลายเป็นเป็นเรื่องปกติในอนาคต ยิ่งต้องเข้าใจว่ามันส่งผลต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก ควรเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกัได้แล้วนะ
อันดับที่ 3 ลองทายกันซิว่ามะเร็งอะไร การจู่โจมของมะเร็งชนิดนี้มาในรูปแบบของรังสี UV ที่เลือกใช้ท่าไม้ตาย ฉายรังสีทะลุทะลวงไม่เลือกหน้า
เฉลยก็คือ มะเร็งผิวหนังนั้นเอง ถึงแม้จะมาไกลจากดวงอาทิตย์ แต่ก็ยังมีคนเข้าใจผิดว่า การอยู่ในที่ร่ม หรือใส่เสื้อผ้าปิดบังผิวหนัง จะสามารถป้องกันรังสี UV ได้ 100% แต่ความจริงก็คือ รังสี UV นี้สามารถทะลุผ่านแม้กระทั้งผนังอาคารเข้ามาได้มากถึง 80% กันเลยทีเดียว
การได้รับรังสีวันละนิด ที่ปรึกษาประกันชีวิต วันละน้อย จนสะสมจนกลายเป็นภัยร้าย อันตรายต่อผิวเรา และมีโอกาสส่งผลร้าย อันตรายต่อเงินในกระเป๋าตังค์ของคุณเช่นกัน ถ้าเป็นทีก็เสียค่ารักษานับแสน คงเป็นเรื่องเศร้า ที่ต่อให้ระวังตัวเท่าไหร่ ก็หนีไม่พ้นรังสี UV ที่เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งผิวหนังอยู่ดี
อันดับที่ 4 “มะเร็งเต้านม”จะอกเล็กหรืออกใหญ่ก็ไม่สำคัญ เพราะเขาเตรียมตัวมาทำร้ายเต้านมคุณโดยเฉพาะ จนได้ตำแหน่ง “มะเร็งที่พบมากที่สุดอันดับ 1 ในผู้หญิง” ครองแชมป์หลายปีซ้อน และจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่า ทุกๆ วันจะพบผู้หญิงป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่เฉลี่ย 40 คนต่อวัน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เฉลี่ย 10 คนต่อวันเลยทีเดียว และที่สำคัญผู้ชายก็เป็นได้นะ คิดเป็นสัดส่วน 0.5 – 1% ต่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพศหญิง 100 คน
รู้ไหม? ปัจจัยการเกิดมะเร็งเต้านมนั้น แบ่งออกเป็น 2 สาเหตุใหญ่ๆ
อันดับที่ 5 กับสำนวนที่ได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กๆ “You are what you eat” คุณกินอะไร คุณก็เป็นอย่างนั้นนะ กินดีก็มีสุขภาพที่ดี แต่กินตามใจปาก ก็อาจลำบากระบบขับถ่าย จน “มะเร็งลำไส้” เข้ามาทักทายคุณก็เป็นได้
ปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการกิน เช่น การกินอาหารประเภทเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์แปรรูปเป็นประจำ ไม่ทานผัก ผลไม้ หรือแม้กระทั้งการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ รวมถึงพฤติกรรมการขับถ่ายยาก ทำให้ลำไส้สะสมสิ่งปฏิกูลและยิ่งเพิ่มพูนเมื่อคุณถ่ายไม่เป็นเวลา สาวๆ หนุ่มๆ คนไหนรู้ตัวว่าใช้ชีวิตทำร้ายน้องลำไส้ทั้งเล็ก และใหญ่มาตลอด เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ก็ยังไม่สายเกินไปนะ แต่ถ้าใครคิดว่า น้องลำไส้ เริ่มมีอาการไม่มีดี
ถึงจะขึ้นชื่อว่า “มะเร็ง” แต่ถ้ารู้ทัน ก็ป้องกันได้
เนื้อร้ายที่ไม่ต่างอะไรกับผู้ร้าย อาจทำคุณเจ็บทั้งตัว ทั้งกระเป๋าตังค์ได้ แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เรามีวิธีป้องกันมาบอกกัน
เตรียมโล่ให้พร้อม อายุที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้โอกาสที่เกิดมะเร็งมากขึ้น แต่เราสามารถเตรียมตัวได้ตั้งแต่วันนี้ด้วยโล่วิเศษที่ทุกคนสามารถสร้างเองได้นั้นคือ “การทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ” จากการออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีประโยชน์
อยู่ห่างจากพื้นที่สีแดง การอยู่ในพื้นที่เสี่ยงมะเร็ง อาจไม่ได้เห็นผลทันทีถึงความอันตราย แต่มันมาในรูปแบบของการสะสมแต้มมะเร็งเสียมากกว่า พยายามอยู่ห่างเข้าไว้ถ้าไม่จำเป็น เช่น ถนนที่มีฝุ่นควัน แหล่งก่อสร้าง หรือสถานที่กลางแจ้งแดดเปรี้ยง ร้อนจนแสบผิว ที่อาจจะทำให้คุณติดเทรนด์ เป็นมะเร็งผิวหนังแบบไม่รู้ตัว
ลดพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง สายบุฟเฟ่ต์ ชาบู หมูกระทะ สายเฮฮาปาร์ตี้ สายติดซีรี่ย์ นอนไม่เป็นเวลา มาฟังทางนี้หน่อย พฤติกรรมเหล่านี้ทำถี่ๆ มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ และมะเร็งตัวอื่นๆ อาจถามหาได้ แต่เราเข้าใจว่าพฤติกรรมบางอย่าง ก็ยากที่จะเลี่ยงได้เพราะเราต้องเข้าสังคม แต่เราสามารถลดพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ได้นะ เช่น เวลาทานบุฟเฟ่ต์ ลองเลือกทานผักในสัดส่วนที่มากขึ้น ลดเนื้อสัตว์ติดมัน หรือสายปาร์ตี้ ถ้ารู้ว่าต้องร่วมวงถี่ๆ ก็ลองปรับปริมาณแอลกอฮอล์ที่จะเข้ามาในร่างกายให้แต่พอดี อย่าโหมหนักจนตับต้องพักระยะยาว เพราะมะเร็งเริ่มจับจองพื้นที่ในร่างกาย
ทำความรู้จักกับหน่วยผู้พิทักสุขภาพ เพราะเจ้ามะเร็งตัวร้ายอยู่ไกล้ตัวคุณ มากกว่าที่คิด ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเริ่มมองหาหน่วยผู้พิทักสุขภาพ ที่จะมาดูแลสุขภาพ คุ้มครองเราและคนที่คุณรักจากโรคมะเร็งอย่างคุ้มค่า กับประกันโรคมะเร็ง FWD Easy E-CANCER พร้อมสู้ทุกโรคมะเร็ง ทุกระยะ
ตรวจพบมะเร็ง รับ 200,000 / 500,000 / 1,000,000 บาท คุ้มครองมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ เมื่อตรวจพบครั้งแรก รับเงินก้อนไปใช้รักษา ตามแนวทางที่คุณต้องการ
เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ก.ล.ต. ขอข้อมูล DSI เพื่อพิจารณาคำขอตั้งกองทุน BTSGIF
นศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 | ฉบับที่ 7 / 2556
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แถลงเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2556 ว่าคณะทำงานสอบสวนคดีพิเศษ มีมติให้แจ้งข้อหาแก่ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (กรุงเทพธนาคม) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) และผู้บริหารของบริษัทข้างต้น กรณีจัดทำสัญญาเกี่ยวกับการเดินรถไฟฟ้า บีทีเอส ว่าร่วมกันประกอบกิจการรถรางโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2556 DSI ได้เรียกให้บุคคลที่เกี่ยวข้องบางส่วนมารับทราบข้อหา นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อมูลตามสื่อสารมวลชนต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อร้องเรียนที่พาดพิงถึงการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอส โกรท (กองทุน BTSGIF) ซึ่งอยู่ระหว่างการยื่นคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมกับ ก.ล.ต.
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 ก.ล.ต. ได้มีหนังสือถึง DSI เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุน BTSGIF ว่า กองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนโดยการซื้อสิทธิในรายได้สุทธิที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักตามสัญญาสัมปทาน ฉบับลงวันที่ 9 เมษายน 2535 มีระยะเวลาประมาณ 17 ปี อันได้แก่ ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายแรกเริ่ม ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้า จำนวน 23 สถานี ประกอบด้วย สายสุขุมวิท จากสถานีหมอชิตถึงสถานีอ่อนนุช ระยะทาง 17 กิโลเมตร และสายสีลม จากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีสะพานตากสิน ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร โดยการลงทุนของกองทุน BTSGIF จะสิ้นสุดลงพร้อมกับอายุของสัมปทานดังกล่าว
จากข้อมูลข้างต้น การลงทุนของกองทุน BTSGIF จึงไม่ใช่การลงทุนในส่วนที่เป็นมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการแจ้งข้อหาของ DSI กรณีเกี่ยวกับสัญญาฉบับลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ซึ่ง กทม. โดยกรุงเทพธนาคม ว่าจ้าง BTSC ให้บริการเดินรถ บริการซ่อมบำรุง และบริการเก็บเงินค่าโดยสาร ในเส้นทางสัมปทานเดิมหลังสิ้นสุดระยะเวลาสัมปทาน และในเส้นทางส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง
เนื่องจากข้อมูลที่ ก.ล.ต. รวบรวมได้ในชั้นนี้ ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่า การแจ้งข้อหาของ DSI เป็นส่วนเดียวกับทรัพย์สินที่กองทุน BTSGIF จะลงทุน ประกอบกับ ก.ล.ต. ต้องแจ้งผลการพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมดังกล่าว ภายใน 45 วันนับแต่วันที่ได้รับคำขอพร้อมเอกสารหลักฐานครบถ้วน ก.ล.ต. จึงได้มีหนังสือไปยัง DSI ขอทราบว่ามีข้อมูลใดเพิ่มเติมที่จะแสดงให้เห็นเป็นประการอื่นหรือไม่ โดยขอให้ DSI ช่วยพิจารณาแจ้งให้ทราบภายใน 30 วัน เพื่อที่ ก.ล.ต. จะได้พิจารณาคำขอจัดตั้งกองทุน BTSGIF ตามกรอบเวลาของกฎหมายต่อไป
ก.ล.ต. ให้บริษัทหลักทรัพย์เข้มงวดในการทำความรู้จักลูกค้าและการพิจารณาให้วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์
วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 | ฉบับที่ 8 / 2556
ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์เข้มงวดในการทำความรู้จักลูกค้า และทบทวนวงเงินลูกค้าที่ซื้อขายหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ cash balance หรือมีการโอนหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มวงเงินซื้อขายอย่างไม่เหมาะสม พร้อมให้สมาคมฯ ปรับปรุงแนวทางการพิจารณาการทำความรู้จักลูกค้า และพิจารณากำหนดแนวทางที่เหมาะสมเกี่ยวกับการโอนหลักทรัพย์ระหว่างลูกค้า เพื่อให้การซื้อขายหลักทรัพย์เป็นไปอย่างเหมาะสม นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยประจำไตรมาสแรกของปี 2556 ว่า โดยที่การซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมามีสภาวะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์และมูลค่าการซื้อขายปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก.ล.ต. จึงได้หารือร่วมกับสมาคมฯ และได้ข้อสรุปให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เข้มงวดและระมัดระวังในการทำความรู้จักลูกค้า (Know-Your-Customer / Customer Due Diligence: KYC/CDD) ทั้งในส่วนฐานะทางการเงิน แหล่งรายได้ และทรัพย์สินที่ลูกค้าได้แสดงไว้ และการพิจารณาให้วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์แก่ลูกค้าอย่างเหมาะสมกับฐานะปัจจุบัน เพื่อให้มีความรัดกุมและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีลูกค้าที่ซื้อขายหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ต้องวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวน (cash balance) หรือลูกค้าที่มีการโอนหลักทรัพย์ในมูลค่าสูงเพื่อเพิ่มวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ และต่อมาได้โอนหลักทรัพย์ดังกล่าวออกไป ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับฐานะการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ที่แท้จริงของลูกค้า ซึ่งจะทำให้การบริหารความเสี่ยงของ บล. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความเชื่อมั่นต่อระบบโดยรวมได้ รวมถึงให้สมาคมพิจารณากำหนดแนวทางที่เหมาะสมเกี่ยวกับการโอนหลักทรัพย์ระหว่างลูกค้า เพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือทุจริต พร้อมกันนี้ ได้ตกลงร่วมกันที่จะปรับปรุงแนวทางการทำ KYC/CDD และการพิจารณาให้วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ที่สมาคมใช้มาตั้งแต่ปี 2550 ให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันต่อไป
ก.ล.ต. ผนึกหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมขับเคลื่อนภาคธุรกิจผ่านโครงการ ?หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด? รุ่นที่ 2
วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 | ฉบับที่ 9 / 2556
ก.ล.ต. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย ชมรมวาณิชธนกิจ และผู้สอบบัญชีที่เข้าร่วมโครงการ เปิดตัวโครงการ ?หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด? รุ่นที่ 2 พร้อมเสนอเงื่อนไขจูงใจ หวังดึงผู้ประกอบการต่างจังหวัดที่พลาดโอกาสในรุ่นแรก ได้รับโอกาสนี้อีกครั้ง โดยเปิดรับสมัครจนถึง 31 พฤษภาคม 2556 นี้
เพื่อให้กิจกรรมการสร้างความรู้ความเข้าใจและความตื่นตัวแก่ผู้ประกอบการในต่างจังหวัดสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการรุ่นที่ 1 ถึง 104 บริษัท จาก 34 จังหวัด? ก.ล.ต. และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวม 8 องค์กร ขอเชิญผู้ประกอบการทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการ ?หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด? รุ่นที่ 2 เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการใช้ตลาดทุนเป็นช่องทางในการระดมทุน และการเตรียมตัวระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจมีแหล่งเงินทุนระยะยาว อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับกิจการพร้อมรับการเปิดเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สำหรับโครงการรุ่นที่ 2 นี้ยังคงเน้นกิจการที่จดทะเบียนหรือมีธุรกิจหลักในต่างจังหวัดซึ่งดำเนินกิจการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี และเปิดกว้างให้กิจการที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วและส่วนของผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท หรือมีผลกำไร หรือมีกำไรสะสม อย่างใดอย่างหนึ่ง ในงบการเงินงวดปีล่าสุด สามารถเข้าร่วมโครงการได้
กิจการที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทุกรายจะได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการ ได้แก่ การอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับตลาดทุนและการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียน ได้รับคำปรึกษาในการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์? สำหรับกิจการที่ยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นภายในปี 2557 จะรับยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จาก ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์?และหากได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นจาก ก.ล.ต. ภายในปี 2557 จะได้รับโล่เชิดชูเกียรติ
ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถศึกษารายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.sec.or.th/ipop หรือ facebook: www.facebook.com/secipop? หรือโทรสอบถามรายละเอียดที่ 0-2263-6000 และยื่นใบสมัครได้ที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด หรือที่ ก.ล.ต. ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2556
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ? รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ?รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนากิจการในต่างจังหวัดทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่ากิจการเหล่านี้เป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้อย่างยั่งยืน จึงหวังว่าผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่ยังไม่มีกิจการเข้าร่วมโครงการแรก จะช่วยกันผลักดันภาคธุรกิจให้เข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อให้กิจการทุกจังหวัดทั่วประเทศเติบโตได้ในระยะยาว?
นายจรินทร์ จักกะพาก? รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ?ในขณะที่ภาครัฐบาลพยายามกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นเพื่อลดปัญหาช่องว่างรายได้ ภาคตลาดทุนภายใต้โครงการนี้มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจท้องถิ่นเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างความแข็งแกร่ง ช่วยสร้างงานและรายได้ให้แก่จังหวัด และยังเป็นการวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ?
นายวรพล? โสคติยานุรักษ์? เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ?โครงการนี้จัดขึ้นอีกครั้งเนื่องจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกิจการในต่างจังหวัด ประกอบกับ ก.ล.ต. ตระหนักถึงความต้องการของผู้ประกอบการหลายประเภทธุรกิจจากหลากหลายจังหวัดที่สนใจในเรื่องตลาดทุนและการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการหลายรายเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะปรับตัว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาไปสู่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต ทำให้ทุกธุรกิจในต่างจังหวัดเตรียมพร้อมเพื่อรับโอกาสจากการเปิดเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน?
นายจรัมพร โชติกเสถียร? กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ?ตลาดหลักทรัพย์พร้อมให้การสนับสนุนและคำแนะนำในการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียน แก่ผู้ประกอบการที่มีความสนใจ เพื่อช่วยให้กิจการมีความพร้อมและสามารถเข้าจดทะเบียนได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้? ทั้งนี้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ รุ่นที่ 1 สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ แล้วจำนวน 4 บริษัท โดยอยู่ในจังหวัด ชลบุรี ปทุมธานี และ ปราจีนบุรี นอกจากนี้ ยังมีอีก 5 บริษัทที่อยู่ระหว่างยื่นคำขอและรอเข้าจดทะเบียน?
นายพยุงศักดิ์? ชาติสุทธิผล? ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ?ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมหลายแห่งเล็งเห็นถึงประโยชน์ของโครงการ จึงสมัครเข้าร่วมโครงการแรกแล้ว? กิจการที่มีแผนปรับปรุงการบริหารและโครงสร้างทางการเงินจึงไม่ควรพลาดโอกาสในการสร้างความรู้ความเข้าใจและเข้าถึงตลาดทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งรองรับกับโอกาสและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน?
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล? ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ?โครงการหุ้นใหม่รุ่นแรกได้ก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวของภาคธุรกิจในต่างจังหวัดในการให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน พร้อมกับการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ไม่เพียงเพื่อสร้างความอยู่รอดเท่านั้น แต่เพื่อสร้างรากฐานทางธุรกิจและสามารถเป็นผู้นำในภาคธุรกิจของตนได้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นกระแสการตื่นตัวได้ยิ่งขึ้น?
นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล? รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ?วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตของธุรกิจ? สวทช.? จึงพร้อมสนับสนุนกิจการที่เข้าร่วมโครงการในการปรับปรุงกระบวนการผลิต ให้คำปรึกษาด้านเทคนิค เพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น?
นายนรเชษฐ์ แสงรุจิ? ประธานชมรมวาณิชธนกิจ กล่าวว่า ?เป็นโอกาสอันดีที่กิจการในต่างจังหวัดแม้จะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือเพิ่งเริ่มดำเนินการไม่นาน จะได้รับคำแนะนำจาก ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ และที่ปรึกษาทางการเงิน พร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งทีมที่ปรึกษาทางการเงินพร้อมให้ข้อเสนอแนะแก่กิจการที่เข้าร่วมโครงการ??
ก.ล.ต. ลงโทษผู้แนะนำการลงทุน 5 ราย ฐานใช้บัญชีลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเองและใช้เงินกู้นอกระบบเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 | ฉบับที่ 10 / 2556
ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนสังกัดบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สาขาชลบุรี จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1) {ก} ผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ 2) {ข} ผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน 3) {ค} ผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุน และ 4) {ฆ} ผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ เนื่องจากใช้บัญชีหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเองและใช้เงินกู้นอกระบบเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ และสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนราย {ง} อดีตผู้จัดการสาขา สังกัดบริษัทเดียวกัน เนื่องจากรู้เห็นและสนับสนุนการกระทำดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556
ก.ล.ต. ได้รับการชี้เบาะแสและเข้าตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าผู้แนะนำการลงทุนสังกัด บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง สาขาชลบุรี จำนวน 4 ราย ได้แก่ {ก} {ข} {ค} และ {ฆ} (ในขณะกระทำความผิดชื่อ {จ} ) ใช้บัญชีหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง โดยกู้เงินจากผู้ลงทุนเจ้าของบัญชีเพื่อชำระค่าซื้อหลักทรัพย์ ซึ่ง {ก} และ {ข} ได้กระทำความผิดดังกล่าวต่อเนื่องเป็นเวลานานและได้รับประโยชน์เป็นส่วนแบ่งค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (incentive) จากการใช้บัญชีหลักทรัพย์ดังกล่าว ซึ่ง {ก} มีปริมาณซื้อขายหลักทรัพย์จำนวนมากอีกด้วย ส่วน {ค} กระทำความผิดต่อเนื่องและได้รับประโยชน์เป็น incentive จากการใช้บัญชีหลักทรัพย์ดังกล่าว โดยมี {ง} ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้จัดการสาขามีส่วนรู้เห็นและสนับสนุนการกระทำที่เกิดขึ้นด้วย