ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก เมืองไทยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ


ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก เมืองไทยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน ประกันตลอดชีพ ประกันสะสมทรัพย์

8 สิ่งที่ต้องทำก่อนอายุ 40
ใช้เวลาไปนาน จนตอนนี้ใกล้ถึงหลักสี่แล้ว….หลักสี่ที่ไม่ใช่สถานที่แต่มันคืออายุที่กำลังจะล่วงเลยเข้าสู่ครึ่งหนึ่งของชีวิต ช่วงที่หลายคนน่าจะกำลังเกิดคำถามกับตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตนี้ดี

เพราะการเดินทางสู่ช่วงอายุ 40 ปี จะเป็นที่เข้าสู่วิกฤติวัยกลางคนอย่างเต็มตัว ในช่วงนั้นเราจะกลับมาเคว้งคว้างและสับสนกับชีวิตไม่ต่างกับเด็กวัยรุ่นอีกครั้ง เพราะนี้คือช่วงเวลาที่ฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลง ช่วงที่หลายคนอาจมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพที่ทำ ไม่เจอความท้าทายใหม่ๆ อีกแล้ว และอาจกำลังต้องหาเป้าหมายต่อไป แล้วเราจะเตรียมตัวอย่างไร? ให้เป็นวัยกลางคนที่ชีวิตยังแฮปปี้ และนี่คือ 8 สิ่งที่ขอแนะนำให้คุณทำก่อนอายุ 40 ปี

1. รักษาสุขภาพ

“การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ในวัยนี้คุณจะพบว่าสุขภาพที่ดีมีมูลค่ามากกว่าสิ่งใด อายุตัวเองเพิ่มขึ้น อายุของระบบในร่างกายก็เช่นกัน อวัยวะบางอย่างเริ่มไม่ฟิตเหมือนแต่ก่อน ถ้าเราปล่อยไว้โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง วันหนึ่งอาจจะกลายเป็นปัญหาสุขภาพได้ แต่เราช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกายได้ด้วยการออกกำลังกาย

2. บริหารเวลาอย่างชาญฉลาด

ให้เวลากับคนที่เราเลยละเลย ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก หากผ่านครึ่งชีวิตที่ทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ตัวเอง ให้ครอบครัว อย่ารอจนสายเกินไปที่คนที่เรารัก ยิ่งในช่วงที่เราเริ่มแก่ตัวแล้ว เราอาจจำเป็นต้องพึ่งพาคนในครอบครัวมากขึ้น หันมาใช้เวลากับพวกเขาสักหน่อย กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นยิ่งขึ้น

3. ออกไปใช้ชีวิตให้สนุก

ชีวิตเกิดมาต้องใช้ซะ อย่าเก็บเงินทั้งหมดที่หามาได้ ไปใช้ชีวิตตอนแก่หลังเกษียณ เพราะถึงตอนนั้นคุณอาจจะไม่มีแรงคึกได้เท่าช่วงตอนยังเป็นวัยรุ่นแล้วก็ได้ ในเมื่อเรายังเที่ยวไหว ลุยไหว ก็ออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่แบบอินฟินิตี้ แต่ก็อย่าใช้เงินกับการใช้ชีวิตไปเสียหมด ต้องจัดสรรปันส่วนก่อน แล้วพอเหลือก็เอาเงินส่วนนั้นไปเติมความสุขให้ตัวเอง

4. ทำประกันให้ครอบคลุม

มีคนบอกว่าเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย! บางทีอาจจะจริงอย่างที่เขาว่า ยิ่งการใช้ชีวิตแบบทุกวันนี้ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงต่างๆ การมีชีวิตที่ยืนยาวจึงควรต้องวางแผนให้รัดกุมทั้งเรื่องของอนาคต การดูแลพ่อแม่ การดูแลครอบครัว รวมทั้งภาระหนี้สินต่างๆ การมีประกันมาช่วยดูแลในส่วนนี้ย่อมเซฟกว่าแน่นอน มันคงจะดีถ้าเราสามารถซื้อประกันหลักพันแต่ให้ความคุ้มครองหลักล้านเพื่อใช้ชีวิตโดยไม่มีภาระหนักเกินไปอย่าง Easy E-LIFE คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม

การมีเงิน ช่วยให้ชีวิตสบาย อันนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องจริงอยู่เสมอ และยิ่งในช่วงที่เราเริ่มแก่ตัวลงแล้ว ความคิดที่อยากจะออกจากวงจรมนุษย์เงินเดือน ก็คงวนเวียนขึ้นมาอยู่บ่อยครั้ง ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเริ่มมองหาช่องทางการสร้างเงิน ให้เงินทำงานให้งอกเงยแม้ตอนคุณหลับ ต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งที่หาได้ ไปลงทุนใน ช่องทางต่างๆ แล้วปันผลออกมาเป็นเงินที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในบั่นปลาย หรือเลือกออมกับการซื้อประกันสะสมทรัพย์ที่ให้ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่คุ้มค่า สามารถรับเงินคืนได้ทุกปี แถมดูแลกันไปยาวๆถึง 10 ปี รายละเอียดเพิ่มเติม

6. มองให้เห็นความสุขรอบตัว

พอได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการแล้ว แน่นอนว่า “ความสุข” ย่อมตามมา ใช้ชีวิตกันมาจนจะอายุ 40 แล้ว ลองสำรวจตัวเองดูอีกครั้ง ว่าชีวิตทุกวันนี้มีความสุขดีเท่าที่ควรจะเป็นหรือยัง ถ้ายังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้ดีขึ้นได้อีก จะทำได้อย่างไรบ้าง เพื่อเติมความสุขไม่ให้ขาดหายไป

7. แบ่งปันเรื่องราวดีๆ

มีความสุขทางกายไปแล้ว อย่าลืมสร้างความสุขทางใจ คนวัยนี้ต้องมีวัดหรือมูลนิธิหรือองค์กรการกุศล ที่ไปเป็นประจำเพื่อช่วยเหลือ แบ่งปัน เสียสละเพื่อคนอื่น พอให้แบ่งปัน ได้ให้ ได้ทำบุญ ก็จะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ และพร้อมที่จะใช้ชีวิตต่อไปแบบมีเป้าหมายเพื่อคนรอบตัว

8. ทำให้มิตรภาพระหว่างเพื่อนคงอยู่ตลอดไป

คปภ. เผยธุรกิจประกันภัยมีสินทรัพย์รวมกว่า 2 ล้านล้านบาท

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ธุรกิจประกันภัยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2,317,643 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 50.94 เป็นสินทรัพย์ของธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 1,620,747 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.10 และเป็นสินทรัพย์ของธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวน 696,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 253.45

ธุรกิจประกันภัยได้นำสินทรัพย์ไปลงทุน จำนวนทั้งสิ้น 1,728,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.22 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 74.56 ของสินทรัพย์รวม ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

1. สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 1,544,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของ ปีก่อนร้อยละ 20.97 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 95.30 ของสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันชีวิต

2. สินทรัพย์ลงทุนของธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวน 183,547 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.20 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.34 ของสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันวินาศภัย (เนื่องจากธุรกิจประกันวินาศภัยมีการบันทึกรายการสำรองประกันภัยส่วนที่เรียกคืนจากการประกันภัยต่อ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์มหาอุทกภัย จึงทำให้สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ)

ทั้งนี้ สินทรัพย์ลงทุนส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ คือ พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง เงินฝากธนาคาร หุ้นกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน และสลากออมทรัพย์ จำนวน 1,440,571 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 83. 36 ของสินทรัพย์ลงทุน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.09 โดยลงทุนในพันธบัตร (รวมตั๋วเงินคลัง) สูงสุด จำนวน 996,218 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 57.65 ของสินทรัพย์ลงทุน ในขณะที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 287,531 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16.64 ของสินทรัพย์ลงทุน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.97 โดยลงทุนในหุ้นทุนสูงสุดจำนวน 169,837 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.83 ของสินทรัพย์ลงทุน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.24

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนของธุรกิจประกันภัยในตลาดตราสารหนี้ และตราสารทุน มีส่วนสำคัญในการผลักดันพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจประกันชีวิตมีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 1,315,532 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 85.17 ของสินทรัพย์ลงทุนรวมทั้งสิ้น เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.45 โดยเป็นการลงทุนในพันธบัตร (รวมตั๋วเงินคลัง) สูงสุดจำนวน 945,792 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 61.23 ในขณะที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 229,023ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 14.83 และเป็นการลงทุนในหุ้นทุนสูงสุดจำนวน 123,631 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.00

สำหรับธุรกิจประกันวินาศภัย มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 125,039 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 68.12 ของสินทรัพย์ลงทุน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.44 เป็นการลงทุนในเงินฝากธนาคารฯ สูงสุดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28.25 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 99.23 และลงทุนในพันธบัตร (รวมตั๋วเงินคลัง) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.47

คปภ. เผยตัวเลขธุรกิจประกันภัยรอบ 7 เดือน
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันภัยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2555 มีเบี้ยประกันภัยรวมทั้งสิ้น 311,993 ล้านบาท เป็นการขยายตัวร้อยละ 19.80 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ธุรกิจประกันชีวิต มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง รวมทั้งสิ้น 212,443 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเบี้ยประกันรับสูงสุด คือ การประกันชีวิตประเภทสามัญ จำนวน 177,841 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.80 รองลงมาการประกันชีวิตประเภทกลุ่ม จำนวน26,684 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 21.82 และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล จำนวน 3,078 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.14

ธุรกิจประกันวินาศภัย มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง รวมทั้งสิ้น 99,550 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 24.98 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเบี้ยประกันรับสูงสุด คือ การประกันภัยรถ จำนวน 58,066 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 21.23 รองลงมาการประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 32,522 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 34.42 และการประกันอัคคีภัย จำนวน 5,961 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 22.15

ปัจจุบันธุรกิจประกันภัยมีการขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ธุรกิจประกันชีวิตมีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับ รวมทั้งสิ้น 19,531,174 กรมธรรม์ และจำนวนกรมธรรม์ประกันชีวิตรายใหม่ 3,087,354 กรมธรรม์ ขยายตัวร้อยละ 8.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนธุรกิจประกันวินาศภัยมีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับ รวมทั้งสิ้น 44,882,235 และจำนวนกรมธรรม์ประกันวินาศภัยรายใหม่ จำนวน 27,903,444 กรมธรรม์ ขยายตัวร้อยละ 11.54

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ได้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนทั้งประเทศ ส่งผลให้ประชาชนทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัย รวมถึงการมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่นการประกันชีวิตแบบบำนาญ และกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองธรรมชาติ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ธุรกิจประกันภัยจึงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสำนักงาน คปภ. มีมาตรการเชิงรุก ลงพื้นที่ จัดบรรยายสร้างความรู้ความเข้าใจด้านประกันภัยไปสู่ภูมิภาค ทั่วประเทศ จึงทำให้ระบบประกันภัยเข้าถึงประชาชนมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตต่อจำนวนประชากรอยู่ที่ร้อยละ 30.03 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงขึ้นอย่างเป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับเป้าหมายในแผนพัฒนาธุรกิจประกันภัย ฉบับที่ 2 ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 40 ภายในปี 2557

กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ จัดหาที่ปรึกษาประกันภัยต่อ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงประกันภัยพิบัตินายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านประกันภัย กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เปิดเผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการด้านประกันภัย เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2555 ดังนี้

1. คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ได้พิจารณาคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาการประกันภัยต่อ จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท Aon (Aon Benfield) และ Marsh (Guy Carpenter) ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการจัดหาประกันภัยต่อ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมีสำนักงานสาขาตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยขั้นต่อไป สำนักงาน คปภ. จะประสานงานกับ บมจ. ไทยรับประกันภัยต่อ เพื่อจัดเตรียมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการรับประกันภัยพิบัติ ส่งให้บริษัทดังกล่าวนำไปศึกษา วิเคราะห์ความเสี่ยง และจัดทำแผนบริหารการประกันภัยต่อ ของกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เสนอให้แก่คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาก่อนนำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ต่อไป

2. ความคืบหน้ากรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ถึง 21 กันยายน 2555 มียอดการจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ รวมทั้งสิ้น 186,771 กรมธรรม์ จากบริษัทประกันวินาศภัย 48 บริษัท ทุนประกันภัยพิบัติทั้งสิ้น 19,958 ล้านบาท มีเบี้ยประกันภัยพิบัติ 137 ล้านบาท โดยจังหวัดที่ซื้อประกันภัยพิบัติสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร รองลงมาคือ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งแสดงว่าประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการทำประกันภัยพิบัติ ในขณะเดียวกันกรมธรรม์ประกันภัยของผู้ประกอบการภาคธุรกิจเอสเอ็มอี และภาคอุตสาหกรรม จะมีการต่ออายุการทำประกันในช่วงปลายปี ทำให้แนวโน้มยอดจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติจะเพิ่มมากขึ้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ที่ให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติที่เข้าลักษณะความรุนแรงถึงขั้นเป็นภัยพิบัติ ที่มีเงื่อนไขหนึ่งระบุว่า คณะรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติรุนแรง ตามคำแนะนำของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยอยู่ระหว่างการพิจารณากำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ภัยธรรมชาติที่เข้าลักษณะความรุนแรงถึงขั้นเป็นภัยพิบัติที่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี เช่น อาจพิจารณาจากจำนวนหลังคาเรือนที่ได้รับความเสียหาย หรือขนาดพื้นที่ความเสียหาย หรือความเสียหายที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ต่อไป

สำนักงาน คปภ. ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย จัดงาน “สัปดาห์ประกันภัย ครั้งที่ 4” ภายใต้แนวคิด “ประกันภัย มั่นใจ หายห่วง” พบนวัตกรรมใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยราคาถูก หมวกกันน็อคราคาพิเศษ 85 บาท เฉพาะในงาน ตื่นตาตื่นใจศิลปินดารานักร้องมากมาย 28 – 30 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคธุรกิจประกันภัย 7 หน่วยงาน ได้แก่ สภาธุรกิจประกันภัยไทย สมาคมประกันวินาศภัย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและ ที่ปรึกษาการเงิน สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย และสมาคมนักคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยเป็นการรวมตัวกัน สรรสร้างนวัตกรรมด้านการประกันภัยใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมงานกว่า 200,000 คน เนื่องจากภาคธุรกิจประกันภัยได้ร่วมกันรณรงค์และประชาสัมพันธ์งานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนได้ทราบข่าวการจัดงานดังกล่าว ทั้งนี้ ภายในงานสัปดาห์ประกันภัย ครั้งที่ 4 พบกับนวัตกรรมด้านการประกันภัยใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ สาระความรู้ ความคุ้มค่า และความบันเทิงครบครัน อาทิ การเสวนา เรื่อง “AEC กับธุรกิจประกันภัย” “ภัยธรรมชาติกับการรับมือ” และ “การวางแผนภาษีด้วยกรมธรรม์ประกันบุคคลสำคัญ” เป็นต้น การอบรมหลักสูตรตัวแทนฯ และการสอบตัวแทนประกันชีวิต/วินาศภัย

ไฮไลด์ของงาน “สัปดาห์ประกันภัย” ครั้งที่ 4 “ประกันภัย มั่นใจ หายห่วง” พบกับ

– กรมธรรม์ประกันภัยพิเศษ ลดสูงสุด 30%

– ประกันภัยรถยนต์ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินราคา พิเศษ

– การจำหน่ายหมวกกันน็อกราคาพิเศษ 85 บาท เฉพาะในงาน โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย

นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ทรงพระชนม์มายุ 85 พรรษา

– ร่วมเล่นเกมส์ลุ้นรับของรางวัลมากมายจากบูธบริษัทประกันภัยและหน่วยงานต่างๆกว่า 100 บูธ

– ซื้อกรมธรรม์ประกันภัย ครบ 1,000 บาท ลุ้นจับรางวัลใหญ่ทุกวันภายในงาน

– สนุกกับกิจกรรมและศิลปินดารา/นักร้องมากมาย อาทิ บี้ เดอะสตาร์ แพนเค้ก เขมนิจ,

เคน ภูภูมิ และ ลิเดีย ฯลฯ

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน ครั้งนี้ เรียกได้ว่า เป็นสุดยอดงานในวงการธุรกิจประกันภัย นอกจากได้รับประโยชน์และความคุ้มค่าในการเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยราคาถูกครบวงจรแล้ว ยังได้รับความบันเทิงและของรางวัลมากมายอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่ควรพลาดงานสัปดาห์ประกันภัย ครั้งที่ 4 “ซื้อประกันภัยที่ไหนก็ไม่เร้าใจ เท่างานนี้” 28 – 30 กันยายน 2555 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

>> เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี

ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท

เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท

โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต

ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน

เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ

*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส

สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด

การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

>> เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี

ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท

เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท

โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต

Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You

พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ

>> เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)

ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว

คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%

(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี

โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด

เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์

เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *