Elite Health Plus เมืองไทยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี ประกันชีวิตออนไลน์ ที่ปรึกษาประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ
สัญญาณเตือน 5 แบบจากประสบการณ์จริงของเหล่านักวิ่ง
เมื่อขับรถก็ต้องขับรถให้ถูกกฎ เคารพวินัยจราจร แล้วถ้าเป็นเรื่องของการวิ่งล่ะ? เราต้องปฏิบัติตนอย่างไรให้วิ่งได้อย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง จริงๆ การวิ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการขับรถที่ต้องอยู่ในกฎในระเบียบ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 สัญญาณเตือนสำหรับนักวิ่ง ที่ต้องสังเกตุให้ดีเพราะไม่มีขึ้นเตือนในป้าย แต่สังเกตได้ง่ายๆ ตามนี้
โปรดซ้อมให้พอต่อระยะที่จะวิ่ง
กลุ่มเพื่อนหรือคนที่เรารู้จัก มักมีอิทธิพลในการที่เราจะเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต เช่นเดียวกับคุณกุ๋ย ที่ได้มาแชร์เส้นทางการเป็นนักวิ่งเทรลให้เราได้รับรู้ ถึงจุดเริ่มต้นในวงการงานวิ่งว่ามาจากการได้เห็นเพื่อนที่รู้จักแม้จะอายุเยอะแล้วแต่ยังแข็งแรงอยู่เลย แล้วอยากจะแข็งแรงแบบเขา เลยเริ่มวิ่งแถวหมู่บ้านก่อน แต่ก็แอบเบื่อสภาพแวดล้อมเดิมๆ เลยลองเปลี่ยนแนวไปซ้อมเทรลดู กลายเป็นชอบมากกว่าวิ่งในเมือง ซึ่งป้ายเตือนที่คุณกุ๋ยได้เจอและมาแชร์กับเรานั้นคือเรื่องของการซ้อมที่ต้องมั่นใจได้ว่า ซ้อมมาหนักพอที่จะลุย
“ จากที่เริ่มวิ่งเทรลตอนนี้วิ่งมาได้ 3 สนามแล้ว แต่มาติดโควิดก่อน มีสนามที่วิ่งไกลสุดคือ 30 โล ที่เชียงใหม่ ใช้เวลาวิ่งไปตั้งแต่แปดโมงกลับเข้า Check point 4 โมง เรามองว่าวิ่งเทลล์มันเสี่ยงนะ แต่เราแลกมันกับ Passion ที่จะวิ่งไปเรื่อยๆ ท้าทายตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อเอาชนะใจตัวเอง เหมือนเราหาภูเขาลูกใหม่ให้เราลองปีนไปเรื่อยๆ แล้วมันก็สนุกที่จะได้เจอกับสิ่งใหม่ๆ เหตุการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม อยากให้คนที่กำลังสนใจ ซ้อมให้เยอะๆ อย่ารีบร้อน ซ้อมให้ได้ระยะ เพราะเป็นสิ่งสำคัญ มีเป้าหมายแล้วแต่ถ้าร่างกายไม่ไหวมันก็จะไปไม่ถึง รวมทั้งการดูแลการกินเพื่อวิ่งเทลล์ด้วย ซ้อมให้ถึงเพื่อเข้าเส้นชัย ”
จากการพูดคุยคุณกุ๋ยมี Passion ที่ชัดเจนเลยทีเดียว และนอกจากความมุ่งมั่นอันเต็มร้อยนี่แล้ว คุณกุ๋ยได้ฝากทริคอีกข้อเพื่อช่วยเติมเต็มความหลงใหลในการวิ่งนี้ นั่นคือเรื่องของการมีประกันอุบัติเหตุเอาไว้ แพราะการวิ่งระยะไกลๆ มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว ไหนจะเป็นการวิ่งตอนกลางคืนอีก ยิ่งควรต้องมีประกันมารองรับโอกาสเสี่ยงนี้ ทำประกันเอาไว้ ยังไงก็วิ่งได้สบายใจกว่า
โปรดเช็กระดับ Heart Rate ทุกครั้งที่ทำการวิ่ง
ขอจับใจเธอหน่อยเต้นแรงแค่ไหน ไม่ได้แค่มาร้องเพลงแต่เรื่องของหัวใจยังไงก็ต้องเช็กกันบ่อยๆ เพราะระหว่างวิ่งเราไม่เคยเจอป้ายเตือนเรื่องของการเช็ก Heart Rate เกิดเต้นแรงไปก็มีโอกาสเสี่ยงหัวใจวายได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับประสบการณ์จากคุณนพอาสาสมัครในกลุ่ม “ลูกโป่งรันเนอร์” นักวิ่งจิตอาสาผู้นำพานักวิ่งท่านอื่นให้เข้าถึงเส้นชัยอย่างปลอดภัย กับเรื่องเล่าที่น่าตื่นเต้นจากการวิ่งแบบที่ลืมประเมินความร่างกายของตัวเอง
“ เราเริ่มวิ่งจากการที่รุ่นพี่ชวนไปวิ่ง ตอนแรกก็ลังเล แต่สุดท้ายก็ลองสู้เพื่อตัวเอง จากนั้นก็วิ่งมาเรื่อยๆ แล้วก็เคยมีช่วงที่พักจากการวิ่งไป 3 เดือน ช่วงนั้นเป็นหน้าร้อน เลยรู้สึกขี้เกียจ จากนั้นกลับมาเริ่มวิ่งใหม่ แต่จากที่เราพักไปนาน ปรากฏว่าไม่รอด เลยทำให้รู่ว่าต้องซ้อม ต้องใช้เวลาในการท้าทายตัวเองอีกครั้ง สนามนั้นคือร่างกายแบบไม่โอเคแล้ว หัวใจเต้นหนักมากๆ ”
นี่แค่เรื่องของคุณนพเองก็ว่าพีคแล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องราวสุดตื่นเต้นจากคุณนพ มาเล่าสู่กันฟัง ในเรื่องที่เกี่ยวกับการไม่ประเมินร่างกายตัวเองให้ดี
“ จากการที่เป็นอาสาในการวิ่ง เราได้เห็นคนที่ประสบอุบัติเหตุ มีตะคริวกิน ช็อคหัวใจหยุดเต้น เราก็ต้องช่วยกัน CPR จนกว่ารถโรงพยาบาลจะมา มีคนไม่สบาย คนไม่พร้อม เจ็บป่วยเฉียบพลัน Elite Health Plus ถ้าเป็นสนามเทรลก็จะมีล้ม ขาพลิก แผลฉีก แล้วแต่สนามกันไป ตัวนพเองส่วนมากก็เจ็บนิดๆหน่อยๆ อย่างขาพลิก ขาบวมประมาณนี้ ต้องสังเกตตัวเอง ถ้าร่างกายเตือนว่าไม่ไหวแล้วก็อย่าฝืน จากที่วิ่งแล้วมีความสุขมาเริ่มทรมาน เราจะหยุดวิ่ง เช็ก Heart Rate ตัวเอง ต้องรู้ตัวเอง อย่าฝืน ”
ทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่จะวิ่ง ควรมีสติอันดับแรก รู้กำลังตัวเอง บางคนฝืนแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด และต้องซ้อมให้ได้ในระยะที่ตัวเองลงไว้ เพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองไหวแค่ไหน ใช้ชีวิตให้อยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท เซฟตัวเองก่อน อย่าเพิ่งไปหวังให้คนอื่นมาเซฟเรา รับความเสี่ยงของตัวเราเองก่อนให้ได้ รวมทั้งการมีประกันเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต มีประกันไว้หากเกิดเหตุขึ้นมามันโอเคกว่าไม่มีอะไรเลย ประกันรถเรายังมีเลย ประกันร่างกายตัวเอง การมีไว้ก็ไม่ใช่เรื่องแย่
ระวังข้างหน้าถนนพัง
ทางวิ่งเป็นเรื่องของสถานที่ ไม่ใช่ผู้คน… ใช่แล้วเรื่องสถานที่เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าถนนมันพังวิ่งไปก็มีแต่ความเสี่ยงนะสิ แถมไม่เคยมีป้ายเตือนเรื่องถนนพัง เพื่อบอกเราเลย ปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ทำให้คนเมืองหันไปวิ่งตามต่างจังหวัดมักมาจาก สถานที่อันไม่เอื้ออำนวยของเมืองหลวง ถนนไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ออกกำลังกาย เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณติน กับมุมมองประสบการณ์ด้านสถานที่ในการวิ่งที่น่าสนใจ
“ ตัวเราเองก็เคยไปอยู่ที่ออสเตรเลีย แล้วเมืองที่เราอยู่มันมี Activity ให้ทำเยอะ เราก็วิ่งจากที่พัก ไปอีกเมืองหนึ่งเลย บางทีก็วิ่งขึ้นเขา ซึ่งที่นั่นมันมีสถานที่ให้เราวิ่งได้อย่างสบายใจ ต่างจากที่ไทยซึ่งบางทีถนน หรือพื้นที่ในการวิ่งอาจไม่ค่อยปลอดภัยเท่าที่ออสเตรเลีย การวิ่งในประเทศไทย ถ้าเป็นต่างจังหวัดจะดีกว่าวิ่งในกรุงเทพ ด้วยการดีไซน์ของเมืองที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเอื้อต่อการออกกำลังกาย แต่ที่ต่างจังหวัดแม้ว่าก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อออกกำลังกาย แต่อย่างน้อย ปริมาณรถก็น้อยกว่า มีพื้นที่มากกว่ากรุงเทพ ”
จากสถานที่ในการวิ่งที่ยังคงไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร ความแข็งของพื้นคอนกรีต รวมทั้งบางจุดของถนนที่มีความทรุดโทรม อาจจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ แล้วเราจะปลอดภัยจากอาการบาดเจ็บได้อย่างไร คุณตินมีบอกกับเราไว้ว่า
“ ตัวผมเองยังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุจากปัจจัยภายนอกนะ จะมีแค่บาดเจ็บของตัวเราเองอย่างเจ็บเข่า จากการที่เราใส่รองเท้าที่ไม่ค่อยเหมาะกับเท้าเรา หรือบางที่พื้นแข็งไป เราก็ปรับไปวิ่งในฟิตเนสแทนเพื่อลดอาการบาดเจ็บ รวมทั้งเลือกที่จะทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้ ซึ่งการเลือกประกันของเราก็จะเลือกจากการที่ประกันสามารถคุ้มครองเราได้จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หรือสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เรารู้ตัวเองอยู่แล้วว่าเราเหมาะกับประกันแบบไหน แล้วเลือกใช้แบบนั้น และการมีประกันจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะใช้ Support เราหากต้องเข้าโรงพยาบาล ทำให้เราไม่ต้องกังวลที่จะต้องเสียค่ารักษา ”
การมีประกันอุบัติเหตุเอาไว้ ยังไงก็เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของคนที่รักกิจกรรม Outdoor ตามที่คุณตินได้บอกกับเราจริงๆ
ระวังสัตว์ป่าโผล่มาทักทาย
สถานที่วิ่งใครว่าไม่สำคัญ ในเมื่อความมันส์มักเกิดจากการที่ได้ออกไปวิ่งในสถานที่แปลกใหม่ ไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะตามต่างจังหวัด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักวิ่งในเมืองหลายคนเริ่มมองหาสถานที่วิ่งในต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะอากาศดี ไม่มีรถติด ช่วงหลังๆ จึงมีคนสนใจมาวิ่งเทรลกันมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือคุณเล่ นักวิ่งเทรลเจ้าของเพจ maorathon จากความสนใจด้านการออกกำลังกายอยู่ในเมืองหลวง พร้อมแนวความคิดที่ว่า วิ่งแล้วทำรถติดจะวิ่งไปทำไม จึงหันเหความสนใจมามองหาที่วิ่งใหม่ๆ ในต่างจังหวัด ผันตัวมาวิ่งเทรลสบายใจกว่ากันเยอะ กับป้ายเตือนเรื่องสัตว์ป่าที่เจอได้ในการวิ่ง
“ คือตอนที่เราวิ่งในกรุงเทพ เราก็สังเกตเห็น ว่าการวิ่งบนถนนมันแบบต้องไปปิดถนน แล้วก็เลยรู้สึกว่ามันไปลำบากคนอื่น บวกกับการที่เราเป็นคนที่ชอบเที่ยวต่างจังหวัดอยู่แล้ว และก็มีการวิ่งพอดี ก็เลยคิดว่า ถ้าเราไปวิ่งเทรลมันก็ได้ทั้ง 2 อย่าง ได้ทั้งวิ่ง ได้ออกกำลังกายด้วย ได้เที่ยวด้วย และไม่ต้องปิดถนน จากนั้นมาก็เลยผันตัวไปวิ่งเทรล ”
การวิ่งเทรล มักจะเป็นการวิ่งตามภูเขา ป่า ที่ข้างทางมีแต่ต้นไม้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทั้งเรื่องของอุบัติเหตุแบบไม่คาดฝัน รวมทั้งเหล่าน้องๆ สัตว์ป่าก็ด้วย ความเสี่ยงเยอะแบบนี้คงต้องมีแผนดูแลตัวเองอย่างดีเลยทีเดียว
“ การวิ่งเทรลค่อนข้างมีความเสี่ยง ด้วยลักษณะถนนที่ ข้างทางเป็นป่าเขา บางทีก็ต้องวิ่งกันตอนที่มึดๆ มองเห็นได้ไม่ชัดก็เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งก็ค่อนข้าง Adventure เหมือนกัน เคยมีเพื่อนที่เขาเจอช้างป่า แล้วโดนช้างป่าเหยียบระหว่างวิ่งด้วย ตัวเราเองเลยต้องระวังตัวอยู่เหมือนกัน อย่างอุบัติเหตุที่เจอก็จะมีแค่สะดุดหิน ได้แผลเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งงานวิ่งเขาจะมีประกันให้กับนักวิ่ง แต่ก็ไม่ครอบคลุม ก็ต้องมีการทำประกันของตัวเองเผื่อเอาไว้ ประกันที่ทำต้องสามารถดูแลเราได้อย่างครอบคลุมหากเกิดอุบัติเหตุ เบิกได้ มีเงินสมทบ ซื้อเอาไว้เพื่อความอุ่นใจ ”
คุณเล่ยังได้ทิ้งท้ายฝากถึงคนที่อยากวิ่งแต่ก็กลัวความเสี่ยงไว้ว่า ถ้าอยากมาวิ่ง อย่างแรกให้ทำตัวเราให้พร้อมก่อน ค่อยๆ ปรับความยากของงานวิ่ง และสุดท้ายหากการวิ่งเริ่มมีความเสี่ยงก็หาประกันเอาไว้ เพื่อที่จะได้เต็มที่กับทุกๆ เส้นทางไปเลย
ป้ายเตือนที่ไม่มีขึ้นเตือนทั้ง 5 แบบจากประสบการณ์จริงของเหล่านักวิ่งนี้ น่าจะพอช่วยทำให้คนที่กำลังลังเลในการมองหาสิ่งที่จะช่วยเติมเต็มให้สามารถเต็มที่กับชีวิตในยุคโควิดแบบนี้ได้ ถ้ามีตัวช่วยดีๆ ชีวิตนี้ก็ตัดเรื่องน่ากังวลออกไปได้เยอะเลย
คปภ. เป็นเจ้าภาพจัดการอบรม เชิงปฏิบัติการ
เรื่อง “การตรวจสอบ ณ ที่ทำการธุรกิจ และการวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทประกันภัย”
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกับสถาบันวิจัยและการฝึกอบรมด้านการประกันภัยแห่งอาเซียน (The ASEAN Insurance Training & Research Institute: AITRI) จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การตรวจสอบ ณ ที่ทำการธุรกิจและการวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทประกันภัย ระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน 2555 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานกล่าวเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง กว่า 50คน ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยจากทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์ บาห์เรน สาธารณรัฐคาซัคสถาน สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย ราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ.
การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจกระบวนการตรวจสอบ ณ ที่ทำการธุรกิจ การวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทประกันภัย การกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยตามหลักหลักธรรมาภิบาล และแบบรวมกลุ่ม การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย จากวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับหลักปฏิบัติที่เหมาะสมในการตรวจสอบบริษัทประกันภัย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันตลาดประกันภัยในหลายๆ ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย และตลาดเกิดใหม่ มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ ที่มีความซับซ้อนเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่เปลี่ยนไป ซึ่งส่งผลให้บริษัทประกันภัยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นตามไปด้วย หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยจึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจในเรื่องการตรวจสอบ ณ ที่ทำการธุรกิจ การกำกับธุรกิจแบบรวมกลุ่ม รวมถึงมาตรฐานการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยที่สอดคล้อง และเป็นสากล เพื่อพัฒนาเสถียรภาพของธุรกิจประกันภัยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ต่อไป
คปภ. แจงอุบัติเหตุรถพ่วงเฉี่ยวชนกัน 16 คัน บนถนนมิตรภาพ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัย
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุรถบรรทุกพ่วงทะเบียน 70-4356 สมุทรสาคร เฉี่ยวชนรถยนต์ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 16 คัน เกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2555 บริเวณถนนมิตรภาพ กิโลเมตรที่ 25 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 22 ราย นั้น
สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. ส่วนภูมิภาค เบื้องต้นทราบว่ารถพ่วงคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยภาคบังคับและภาคสมัครใจ (ประเภท 3) ไว้กับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด ซึ่งผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
1. ผู้ประสบภัยเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร ทายาทสามารถเรียกร้องค่าเสียหาย ได้ดังนี้
– ความคุ้มครองจากประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) 200,000 บาทต่อคน และ
– ความคุ้มครองจากประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) กรณีไม่มีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคน หรือมีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 300,000 บาทต่อคน
2. ผู้ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าเสียหาย ได้ดังนี้
– ความคุ้มครองจากประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน และ
– ความคุ้มครองจากประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินวงเงินคุ้มครองตามกรมธรรม์
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุจึงได้ประสานกับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับผู้เสียชีวิต และประสานโรงพยาบาลที่รับรักษาผู้บาดเจ็บเพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องค่ารักษาพยาบาล ต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากเดือนหน้าจะมีวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนมีการเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยขอให้ท่านเดินทางด้วยความระมัดระวัง ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งาน และอย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุของการทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) ก่อนเดินทางเพราะหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น การทำประกันภัยรถตาม พ.ร.บ. สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของท่านได้
คปภ. เผยภาพรวมธุรกิจประกันภัย ไตรมาสแรกปี 2555 โตร้อยละ 17.98
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันภัยไตรมาสแรก ปี 2555 (มกราคม – มีนาคม) โตขึ้นเป็นลำดับ มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 131,887 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.98 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันชีวิต จำนวนทั้งสิ้น 89,594 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.01 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของการประกันชีวิตประเภทสามัญ จำนวน 74,904 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 18.04 รองลงมาเป็นการประกันชีวิตประเภทกลุ่ม จำนวน 11,365 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.78 และจากการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล จำนวน 1,228 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.51
ธุรกิจประกันวินาศภัยมีเบี้ยประกันภัย จำนวนทั้งสิ้น 42,292 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 20.09 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของการประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 14,091 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 30.74 รองลงมาเป็นการประกันอัคคีภัย จำนวน 2,550 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 25.26 และจากการประกันภัยรถ จำนวน 24,381 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.10
ทั้งนี้ จำนวนกรมธรรม์ประกันภัยที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรก ของปี 2555 ธุรกิจประกันภัยมีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยรายใหม่ รวมทั้งสิ้น 12,555,005 ราย เป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 20,947,213 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกรมธรรม์ประกันภัยของธุรกิจประกันชีวิต 1,408,955 ราย เป็นจำนวนเงินเอาประกันภัย เท่ากับ 899,701 ล้านบาท และเป็นกรมธรรม์ประกันภัยของธุรกิจประกันวินาศภัย 11,146,050 ราย เป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยเท่ากับ 20,047,513 ล้านบาท
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ธุรกิจประกันภัยไตรมาสแรกของปี 2555 จะโตถึงร้อยละ 17.98 แต่จากวิกฤตหนี้สาธารณะเศรษฐกิจยุโรป สำนักงาน คปภ. ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ความผันผวนอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก ธุรกิจประกันภัยมีเงินลงทุนส่วนหนึ่งในตลาดพันธบัตร ตลาดเงิน และตลาดลงทุน เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนรอจ่าย ประกอบกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมามีการเรียกร้องกับบริษัทประกันภัยต่อ ในยุโรป ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามรายงานของจากผู้ประเมินวินาศภัยในต่างประเทศ
>> เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
>> เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
>> เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)
ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว
คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย