Elite Health Plus UDesign DHealth Plus เมืองไทยยูแอลพลัส UL Plus เมืองไทยประกันชีวิต ประกันโรคร้ายแรง เมืองไทยประกันชีวิต ประกันบำนาญ
พฤติกรรมทำร้ายสมอง ฤติกรรมทำร้ายสมอง!! ใครเริ่ม ขี้หลง ขี้ลืม ต้องระวัง!
“สมอง” อวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกายของคนเรา มีหน้าที่ควบคุมการกระทำของเราทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว ความรู้สึกนึกคิด หรือความจำหากคุณกำลังมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบผิดๆ ชีวิตอาจเสี่ยงโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น โรคสมองเสื่อมได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย และการดำเนินชีวิตอย่างแน่นอน มาดูพฤติกรรมทำร้ายสมองของเรากันเลย
ไม่ทานอาหารเช้า
มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ถ้าเราไม่ทานอาหารเช้าก็จะขาดน้ำตาลในเลือด น้ำตาลในเลือดเป็นสารอาหารที่สำคัญของสมอง อาหารเช้าสำคัญก็เพราะว่าร่างกายจะไม่ได้รับสารอาหารในช่วงเวลาที่เรานอนหลับ และเมื่อเราไม่ทานอาหารเช้าก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดของเราต่ำลงอีก ส่งผลให้สมองในส่วนความจำทำงานไม่เต็มที่
นอนไม่เพียงพอ
การนอนหลับถือเป็นการพักผ่อนหรือให้ร่างกายได้ปรับตัวจากความเหนื่อยล้า หากร่างกายได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอก็จะส่งผลต่อสภาวะอารมณ์ การใช้ชีวิตประจำวัน เช่นทางด้านการคิด หรือการทำสิ่งต่างๆช้าลง ผู้ที่นอนน้อยหรือได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอนั้นยังมีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่างๆ โรคหลอดเลือดสมอง หรือเป็นสาเหตุของโรคร้ายต่างๆได้
บริโภคน้ำตาลมากเกินไป
ร่างกายที่ได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เนื่องจากการที่ร่างกายได้รับน้ำตาลเยอะเกินไปจะทำให้สมดุลในเลือดเสียไป โดยทั่วไปไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน
กินเยอะเกินไป
การกินอาหารที่เยอะเกินไปจะส่งผลเสียกับสุขภาพในหลายๆด้าน และโรคต่างๆที่อาจจะตามมาอีกด้วย เช่น กินเยอะเกินไปทำให้เป็นกรดไหลย้อน คอเลสเตอรอลสูง และที่แน่นอนคือโรคอ้วน ดังนั้นการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายเป็นประจำจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก
สูบบุหรี่
การสูบบุหรี่บ่อยๆ Elite Health Plus หรือสูบบุหรี่เป็นประจำนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้สมองเสื่อม เพราะในบุหรี่มีสารนิโคติน และสารพิษที่เป็นอันตรายอื่นๆ ที่เป็นผลต่อการทำงานที่ผิดปกติของระบบสมอง และยังทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน เซลล์สมองฝ่อ หรือส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ลดลง
นอนคว่ำหน้าหรือนอนคลุมโปง
การนอนคว่ำหรือนอนคลุมโปงจะทำอากาศไม่ถ่ายเท ร่างกายจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เกิดโอกาสที่จะสูดเอาคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป ร่างกายที่ขาดอออกซิเจนหล่อเลี้ยงจะส่งผลต่อการทำงานของสมองโดยตรง
สูดดมมลพิษมากเกินไป
เพราะร่างกายต้องการออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมอง เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง หากได้รับมลพิษเป็นเวลานาน หรือได้รับในปริมาณที่มากไป โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดในสมองก็สูงขึ้นด้วย เสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงขึ้น หลอดเลือดในสมองแข็งตัว ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลง และยังส่งผลต่างๆตามมาอีกด้วย
ความเครียด วิตกกังวล
ความเครียด พฤติดรรมทำร้ายสมองที่คนส่วนใหญ่เจอและหลีกเลี่ยงไม่ได้ พบเจอได้ทุกวันทุกวัย จากการทำงาน จากการใช้ชีวิตประจำวัน บางคนเครียดมากเกินไป เครียดสะสมเป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัวส่งผลในหลายๆด้าน เช่นทำให้เป็นโรคนอนไม่หลับ เป็นโรคซึมเศร้า กระทบต่อการทำงานของสมองและร่างกาย ความจำแย่ลง ขี้หลงขี้ลืม การนอนหลับพักผ่อนหรือการหากิจกรรมคลายเครียดจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก
เก็บตัว ไม่เจอผู้คน ไม่พูดไม่จา
การพบปะผู้คน หรือการพูดคุยนั้นถือว่าได้เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่นผ่านกระบวนความคิด ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และยังได้ช่วยในการพัฒนาและการเจริญเติบโตของสมองอีกด้วย ในบางกรณีการได้พูดคุยได้แลกเปลี่ยนความเพื่อผ่อนคลายความกังวนใจก็ช่วยในเรื่องของความเครียด ช่วยในเรื่องของความสบายใจและสามารถนอนหลับพักผ่อนได้
สมองสำคัญมากต่อชีวิต เราทุกคนจึงควรดูแลสมองให้ดี และสังเกตความผิดปกติของสมองอยู่เสมอ
เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2556 | ฉบับที่ 67 / 2556
ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ราย {ก} เป็นเวลา 3 เดือน
สืบเนื่องจาก ก.ล.ต.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าจึงตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากเทปบันทึกการสนทนาระหว่าง {ก} กับลูกค้า และพบบทสนทนาในลักษณะที่ {ก} รับมอบหมายจากลูกค้าให้ช่วยดูแลหุ้นในบัญชีของลูกค้าและให้ตัดสินใจซื้อขายแทน โดยกระทำต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 เดือน ในปริมาณและมูลค่าการซื้อขายที่สูง ซึ่งในขณะกระทำดังกล่าวสังกัดบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
การกระทำของ {ก} ในลักษณะรับมอบหมายจากผู้ลงทุนในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทน เป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อ 20(2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 อันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 6(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทธ/น/ข. 37/2553 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553 ก.ล.ต. จึงสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ราย {ก} เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2556
ก.ล.ต. ชี้แจงประเด็นข่าวกรณีอดีตผู้บริหาร LVT ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม 2556 | ฉบับที่ 68 / 2556
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่านายแฮนส์ จอร์เกน เนียลเซ่น อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการบริหารและประธานกรรมการบริหารของบริษัท แอล. วี. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (“LVT”) ได้ส่งหนังสือร้องเรียนต่อเลขาธิการ ก.ล.ต. กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนและกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นั้น
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ?การสอบถ้อยคำของ ก.ล.ต. เป็นการแสวงหาพยานหลักฐานประกอบการดำเนินการตามกฎหมายตามขั้นตอนปกติ ไม่มีการเลือกปฏิบัติไม่ว่าจะสอบถ้อยคำคนไทยหรือชาวต่างชาติ ในกรณีเป็นชาวต่างชาติ จะเปิดโอกาสให้จัดหาล่ามมาเองได้ เพื่อให้เกิดความสบายใจว่ามีการแปลถูกต้อง ทั้งนี้ ผู้ให้ข้อมูลจะลงนามรับรองความถูกต้องทุกขั้นตอน ซึ่งในกรณีของนายแฮนส์ ได้มีการจัดหาผู้ที่ทำหน้าที่ล่ามด้วยตนเอง โดยล่ามได้แปลถ้อยคำให้ฟังก่อนลงนามรับรองด้วยนอกจากนี้ ก่อนที่จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ก.ล.ต.ได้ให้โอกาสนายแฮนส์ชี้แจงและแสดงหลักฐานอย่างเต็มที่ ซึ่งนายแฮนส์ได้มีหนังสือชี้แจงเพิ่มเติมภายหลังการสอบถ้อยคำอีกหลายครั้ง
สำหรับเรื่องร้องเรียนของนายแฮนส์ ก.ล.ต. ได้รับเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของเรื่องร้องเรียน ซึ่งจะมีการแจ้งผลต่อผู้ร้องเรียนต่อไป?
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการกำหนดสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนของผู้ลงทุนในกองทุนรวมทั่วไปและการแบ่งชนิดหน่วยลงทุน
วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2556 | ฉบับที่ 69 / 2556
ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การนับคะแนนเสียงลงมติของผู้ถือหน่วยลงทุน สำหรับกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุน (multi-class) ในประเด็นเกี่ยวกับการขอมติที่กระทบสิทธิผู้ถือหน่วยลงทุนทุก class หรือการขอมติที่กระทบสิทธิของ class ใด class หนึ่ง และการนับคะแนนเสียงของบุคคลและกลุ่มบุคคลเดียวกัน รวมทั้งการปรับปรุงนิยามกลุ่มบุคคลเดียวกันให้รวมถึงบุคคลที่มีอำนาจควบคุมด้วย
ในการนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) จึงขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6332 หรือทาง e-mail ที่ kunpatu@sec.or.th จนถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2556
ก.ล.ต. เพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุน
วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556 | ฉบับที่ 70 / 2556
ก.ล.ต. เพิกถอนการให้ความเห็นชอบพร้อมทั้งเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนราย {ก} สังกัดบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ก.ล.ต. ได้รับรายงานการตรวจสอบจากบริษัทต้นสังกัดและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า {ก} ไม่บันทึกการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าให้ครบถ้วนจำนวนหลายรายการ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเทปบันทึกการสนทนายังพบว่านาย {ก} มีพฤติกรรมใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง
การกระทำของ {ก} ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ข้อ 20 (1) และ (3) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 อันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 6(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทธ/น/ข. 37/2553 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553 (ประกาศ ที่ ทธ/น/ข. 37/2553) ก.ล.ต. จึงเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้สาธารณชนทราบกรณีไม่บันทึกการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าให้ครบถ้วน
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้เพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนของ {ก} กรณีใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง โดยมีกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2556
อนึ่ง ก.ล.ต. ขอย้ำเตือนว่า การที่บุคลากรในธุรกิจตลาดทุนใช้บัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น เป็นการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อการประกอบวิชาชีพ และผู้กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนและสำนักงานจะไม่รับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดตามความร้ายแรงของพฤติกรรมการกระทำความผิด ซึ่งจะมีผลทำให้ไม่สามารถประกอบวิชาชีพเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามระยะเวลาที่กำหนดดังกล่าว
ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม กรณีทุจริตต่อหน้าที่ ทำให้ทรัพย์สินของกองทุนเสียหาย และทำบัญชีเท็จ
วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 | ฉบับที่ 71 / 2556
ก.ล.ต. กล่าวโทษ (1) นายมาริศวน์ ท่าราบ (ชื่อเดิมนายมาริษ ท่าราบ) อดีตกรรมการผู้จัดการ บลจ. ไอเอ็นจี และผู้จัดการกองทุน ที ยู โดม (2) นายบุริม ชมภูพล อดีตผู้จัดการกองทุน ที ยู โดม (3) บริษัท บาเนีย จำกัด และ (4) นายสุทธภา เขมพฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาเนีย จำกัด ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ก.ล.ต. ตรวจสอบการดำเนินงานตามปกติ (routine inspection) พบว่า การบริหารจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ (“กองทุนที ยู โดม”) ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไอ เอ็น จี (ประเทศไทย) จำกัด (“บลจ. ไอเอ็นจี”) ไม่เป็นไปตามโครงการจัดการการลงทุนของกองทุนรวมดังกล่าว และไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่ออกตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งนำไปสู่การพิจารณาลงโทษ บลจ. ไอเอ็นจี นายมาริศวน์ และนายบุริม ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนที ยู โดม ในขณะนั้นไปแล้ว
จากการขยายผลการตรวจสอบ ก.ล.ต. พบพยานหลักฐานน่าเชื่อว่า ระหว่างวันที่ 5 มกราคม 2552 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2552 นายมาริศวน์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บลจ. ไอเอ็นจี และปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุน ที ยู โดม และนายบุริม ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการกองทุน ที ยู โดม ได้กระทำการโดยทุจริตต่อหน้าที่ ดำเนินการให้กองทุน ที ยู โดม จ่ายเงินจำนวน 10.4 ล้านบาท ให้แก่ บริษัท บาเนีย จำกัด โดยอ้างว่าเป็นการจ้างเหมาตกแต่งภายในบางส่วนของอาคารที่เป็นทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งไม่ตรงต่อความเป็นจริง ทำให้กองทุน ที ยู โดม ได้รับความเสียหาย และปลอมแปลงหรือลงข้อความในเอกสารและหลักฐานประกอบการเบิกเงินอันเป็นเท็จ เพื่อลวงบุคคลใด ๆ โดยได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากบริษัท บาเนีย จำกัด และนายสุทธภา เขมพฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บาเนีย จำกัด อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 307, 308, 311, 312, 313 และ 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 4 รายต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้พิจารณาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นอำนาจและดุลพินิจของศาลยุติธรรม
คณะกรรมาธิการยุโรปยอมรับมาตรฐานกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุนไทย
วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2556 | ฉบับที่ 72 / 2556
คณะกรรมาธิการยุโรป (“EC”) มีมติยอมรับระบบการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุนของ ก.ล.ต. และจัดให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน (equivalent) เป็นผลให้ผู้สอบบัญชีของไทยไม่ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลผู้สอบบัญชีของประเทศสมาชิก EU ทำให้บริษัทไทยสามารถเสนอขายหลักทรัพย์ใน EU ได้สะดวกและนับเป็นครั้งแรกที่ EC ให้การยอมรับประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ?การยอมรับจาก EC เป็นผลจากการที่ ก.ล.ต. ได้มีแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุนอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานสากล โดยได้เข้าตรวจระบบการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีของสำนักงานสอบบัญชี และได้ยกระดับคุณภาพงานสอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนให้มีมาตรฐาน โปร่งใส และเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลทางการเงินที่เปิดเผยในตลาดทุนไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล โดยได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ผู้สอบบัญชีในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีตามมาตรฐานสากล ทำให้ผู้ลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิก EU ที่ลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทไทยมั่นใจได้ว่า จะได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอ ทำให้ประเทศสมาชิก EU และประเทศไทยสามารถให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกันในการตรวจสอบการทำงานของสำนักงานสอบบัญชีที่ดำเนินการโดยอีกฝ่ายหนึ่งได้ (mutual reliance)
การยอมรับจาก EC ในครั้งนี้ เป็นการยกระดับประเทศไทยขึ้นไปเป็นกลุ่มประเทศที่มีมาตรฐานทัดเทียมกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ก.ล.ต. ได้ดำเนินงานสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทำให้บริษัทไทยสามารถเสนอขายหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิก EU ได้สะดวกยิ่งขึ้น สามารถใช้ผู้สอบบัญชีไทยได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้แก่บริษัทไทยต่อไป?
อนึ่ง จนถึงปัจจุบัน EC ยอมรับประเทศหรือเขตดินแดน จำนวน 20 แห่ง อาทิเช่น ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สวิสเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา บราซิล อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน และไทย เป็นต้น
ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์ REITs ให้ยืดหยุ่นสนับสนุนการประกอบธุรกิจ
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2556 | ฉบับที่ 73 / 2556
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts: REITs) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและสนับสนุนการประกอบธุรกิจ
การปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวครอบคลุมประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทรัสตีของ REIT โดยจะผ่อนคลายให้ทรัสตีทำธุรกรรมกับ REIT ได้มากขึ้นแต่ยังคงหลักการที่สำคัญคือ ทรัสตีต้องมีความเป็นอิสระจากผู้จัดการกองทรัสต์ และถ้าจะทำธุรกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เช่น จะเป็นผู้รับประกันการจัดจำหน่าย หรือ ที่ปรึกษาทางการเงิน ก็จะต้องมีกลไกหรือมาตรการที่จะป้องกันการเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือมีการถ่วงดุลอย่างเพียงพอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ REITs และผู้ถือหน่วยทรัสต์เป็นสำคัญ ซึ่งสำนักงานจะกำหนดแนวทางในรายละเอียดต่อไป
?คณะกรรมการกำกับตลาดทุนยังได้มีมติให้การยื่นคำขอจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) ต่อสำนักงาน ซึ่งยังสามารถดำเนินการได้ถึง 31 ธันวาคม 2556 ต้องเป็นกองทุนที่มีการระบุเฉพาะเจาะจงทรัพย์สินที่จะลงทุนเท่านั้น และให้บริษัทจัดการมีหนังสือรับรองการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบและสอบทาน (due diligence) ด้วย? นายวรพล กล่าว
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับเกณฑ์การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ