MTL Click ลดหย่อนภาษี เมืองไทยประกันชีวิต ประกันบำนาญ เหตุผลที่ฟรีแลนซ์…ต้องมีประกัน ! คุ้มครองเหมาจ่ายลดหย่อนภาษีฟรีแลนซ์
Born to be Freelance อย่างเรา ความอดทนต้องเป็นเลิศ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องสุขภาพ สติต้องสตรองตลอดเวลา ยิ่งโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพกับอาชีพฟรีแลนซ์แล้ว ยิ่งต้องดูแล เพราะฟรีแลนซ์ขึ้นชื่อเรื่องของการทำงานหนัก พักผ่อนไม่เคยพอ บางคนทำงานถึงเช้าก็มี จนทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรมสะสม และสุดท้ายอาจทำให้ป่วยโรคร้ายโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นถ้าความเจ็บป่วยเริ่มแฝงมาไม่รู้ตัวแบบนี้ อาชีพฟรีแลนซ์ควรวางแผนด้านสุขภาพกันไว้หน่อย เพราะสวัสดิการจากองค์กรก็ไม่มี เจ็บป่วยแต่ละทีอาจจะกระทบเงินเก็บได้ วันนี้ลองมาดูเหตุผลที่อาชีพฟรีแลนซ์ควรมีประกันสุขภาพกัน ว่ามีความสำคัญกับอาชีพฟรีแลนซ์อย่างไรกันบ้าง
มีเงินเก็บมากขึ้น
หลายคนอาจงงว่าทำไมเมื่อมีประกันสุขภาพชาวถึงมีเงินเก็บมากขึ้น คำตอบก็คือเพราะปัญหาใหญ่ ๆ ในชีวิตของชาวฟรีแลนซ์ส่วนมากจะกังวลเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เพราะหากไม่ได้รับงานที่มั่นคงมาทำ อาจต้องคอยลุ้นทุกเดือนว่าเดือนนี้รายได้จะมีเท่าเดิมหรือไม่
ดังนั้นในเมื่อมีประกันสุขภาพแล้ว เราก็ไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับค่ารักษาพยาบาลก้อนโตจนทำให้เงินที่เก็บมาทั้งชีวิตหมดไปกับค่ายาและค่าหมอ การทำประกันจึงถือเป็นตัวช่วยของชาวฟรีแลนซ์ได้ดี และผลประโยชน์ที่ได้มาเพิ่มเติมจากการทำประกันอีกหนึ่งข้อก็คือ สามารถนำค่าเบี้ยประกันไปใช้ยื่นลดหย่อนภาษีตามที่สรรพากรกำหนดได้ด้วย
Enjoy กับชีวิตได้เต็มที่
ฟรีแลนซ์ขึ้นชื่อว่าอึด ถึก ทน กับการทำงานหนักแทบทุกช่วงเวลาของชีวิต จะหาเวลาพักผ่อนแต่ละวันยังแทบไม่มีเพราะต้องส่งงานตามเวลา ยิ่งใครที่รับหลายงานพร้อมกัน เผลอ ๆ ร่างอาจพังไม่รู้ตัว จะไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหน ก็ใจไม่กล้าพอ เพราะหากกลับมาแล้วเจ็บป่วย หรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน ก็อาจต้องมานั่งกุมขมับกับค่ารักษาได้
ดังนั้นถ้าเรามีประกันสุขภาพแล้ว พูดเลยว่าหมดห่วงกับทุกการใช้ชีวิต ใครที่มีแพลนอยากไปเที่ยวไหน หรือจะเอางานไปทำนอกสถานที่พักผ่อนริมทะเล หรือสูดอากาศบนภูเขาก็ทำได้หมด ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังใด ๆ เพราะหากเจ็บป่วยขึ้นมาหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจริง ๆ ก็ไม่ต้องกังวลกับค่ารักษา เพราะมีประกันคอยช่วยดูแล
เจ็บป่วย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา
ความไม่แน่นอนและไม่มั่นคงเป็นปัญหาหลักของเหล่าฟรีแลนซ์ รวมไปถึงอีกหลายอาชีพ เช่น พ่อค้าแม่ค้า แม่บ้าน เพราะไม่มีสวัสดิการใด ๆ มาช่วยดูแลหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน โดยเฉพาะหากเจ็บป่วย MTL Click ลดหย่อนภาษี
ฉุกเฉินต้องผ่าตัด หรือป่วยด้วยโรคร้าย ก็อาจทำให้ต้องสูญเสียรายได้ ทำให้เงินที่เก็บมาทั้งชีวิตหายไปอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นการมีประกันสุขภาพจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและช่วยลดความกังวลตรงส่วนนี้ไปได้ เราควรเลือกประกันสุขภาพมาคุ้มครองยามเจ็บป่วย และซื้อความคุ้มครองเสริมเพิ่มได้ตามความต้องการ เช่น ชดเชยรายได้ คุ้มครอง OPD หรือโรคร้าย ก็ยิ่งช่วยให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา และรายได้ที่อาจสูญเสียหากต้องหยุดงานได้
จะเห็นได้ว่าการเป็นฟรีแลนซ์ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด หากรักในอาชีพอิสระแบบนี้ ก็ควรต้องเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้านเผื่อไว้ยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะในของเรื่องสุขภาพ เพราะในอนาคตเราไม่รู้ว่าจะเจ็บป่วยตอนไหน รายได้ก็ไม่แน่นอน แถมสวัสดิการก็ไม่มี การมีตัวช่วยเพื่อกระจายความเสี่ยงจึงสำคัญและจำเป็นต่ออาชีพฟรีแลนซ์
เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)
ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว
คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
กรมการประกันภัย ครบรอบวันสถาปนา 26 ปี จัดกิจกรรมสัมมนาวิชาการเน้นให้ความรู้ภาคธุรกิจประกันภัยพร้อมจัดพิธีมอบรางวัลบริษัทประกันภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น ประจำปี 2547 เชิญเลือกซื้อสินค้าคุณภาพได้ในงาน มหกรรมส่งเสริมสินค้าไทย และทำ ประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร ประกันภัยพรบ.รถมอเตอร์ไซค์พร้อมแลกซื้อหมวกกันน็อคได้ ในราคาพิเศษ 99 บาท
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่าเนื่องในโอกาส ที่กรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ จะครบรอบ 26 ปี ในวันที่ 24 มีนาคม 2548 กรมการประกันภัยได้จัดกิจกรรมสัมมนาวิชาการที่มุ่งเน้นพัฒนาระบบการให้บริการของผู้ประกอบการประกันภัยแก่ผู้เอาประกันภัย การพัฒนาตัวแทนประกันภัยให้เป็นมืออาชีพรวมถึงการพัฒนาความรู้ของบุคคลากรครูตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษาให้มีความรู้เรื่องการประกันภัยที่ทันยุคทันสมัยและสอดคล้องกับพัฒนาการของธุรกิจประกันภัยในปัจจุบัน
นอกจากนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการมีการพัฒนาปรับปรุงระบบการให้บริการที่ดีสำหรับผู้เอาประกันภัยยิ่งๆ ขึ้นไป กรมการประกันภัยจะจัดพิธีมอบรางวัลบริษัท ประกันภัยที่มีการบริหารงานดีเด่นประจำปี 2547 รวมจำนวนทั้งสิ้น 13 รางวัล โดยรางวัลบริษัท ประกันภัยที่มีการบริหารดีเด่น ประจำปี 2547 แบ่งออกเป็นดังนี้ บริษัทประกันวินาศภัย จำนวน 5 รางวัล บริษัทประกันชีวิต จำนวน 3 รางวัล รางวัลชมเชยสำหรับบริษัทประกันวินาศภัย จำนวน 2 รางวัล รางวัลชมเชยสำหรับบริษัทประกันชีวิต จำนวน 1 รางวัล และรางวัลบริษัทประกันภัย ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจ จำนวน 2 รางวัล
พิเศษสุดในปีนี้ได้จัดกิจกรรมสำหรับประชาชนขึ้นในงาน มหกรรมส่งเสริมสินค้าไทย ระหว่างวันที่ 23-27 มีนาคม 2548 ณ อาคารแสดงสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก ในงานมีการจำหน่ายสินค้า OTOP 5 ดาว เสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ เครื่องแต่งบ้าน นอกจากนี้สมาคมประกันวินาศภัย สมาคมประกันชีวิตไทย และ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้ร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องการประกันภัยและบริการทำ ประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทรและประกันพรบ.รถจักรยานยนต์ ซึ่งผู้ที่ซื้อประกันภัยภายในงานจะได้รับของที่ระลึกและสามารถแลกซื้อหมวกกันน็อคมาตรฐานมอก.ได้ในราคาใบละ 99 บาท
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิด
อุบัติเหตุเรือโดยสารชื่อ “รุ่งโรจน์” ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจากท่าเรือบางโรง อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต มุ่งหน้าไปท่าเรือมาเนาะ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ถูกพายุฝนพัดกระหน่ำพลิกคว่ำ
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2548 ที่บริเวณบ้านแหลมเ**ย ม.3 ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จังหวัดพังงา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 รายและสูญหายประมาณ 20 คน นั้น ได้มอบให้สำนักงานประกันภัยจังหวัดพังงาเร่งติดตามตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการทำประกันภัยของเรือลำดังกล่าวแล้วปรากฏว่า เจ้าของเรือลำดังกล่าว มิได้มีการทำประกันภัยสำหรับผู้โดยสารเรือโดยสารรับจ้างไว้
นางสาวพจนีย์ฯ กล่าวต่อไปว่า โดยกฎหมายเจ้าของเรือจะต้องทำประกันภัยสำหรับ
ผู้โดยสารเรือโดยสารรับจ้างซึ่งเป็นการประกันภัยภาคบังคับตามกฎกระทรวงคมนาคม ที่กำหนดให้ เจ้าของเรือโดยสารรับจ้างที่บรรทุกผู้โดยสารตั้งแต่สิบสามคนขึ้นไปต้องทำประกันภัยอุบัติเหตุเพื่อคุ้มครอง ผู้โดยสารเรือกรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า หรือสายตา อย่างใดอย่างหนึ่งรวมสองข้าง หรือทุพพลภาพถาวร สิ้นเชิงจะได้รับความคุ้มครอง คนละ 50,000 บาท ถ้าสูญเสียมือ เท้า หรือสายตาข้างใดข้างหนึ่งจะได้รับ ความคุ้มครองคนละ 25,000 บาท และกรณีบาดเจ็บผู้ประสบภัยจะได้รับค่ารักษาพยาบาลคนละไม่เกิน 10,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงินในการชดใช้ค่าเสียหายของเจ้าของเรือ แต่ในกรณีอุบัติเหตุครั้งนี้ เจ้าของเรือได้เคยมีการประกันภัยสำหรับผู้โดยสารเรือโดยสารรับจ้างไว้ แต่กรมธรรม์ ประกันภัยดังกล่าวได้ขาดการต่ออายุ โดยได้ทำประกันภัยไว้เพียงถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เท่านั้น เมื่อมีการเกิดอุบัติเหตุ ในวันที่ 5 มีนาคม 2548 จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย
นางสาวพจนีย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นอุบัติภัยร้ายแรงอีกครั้งหนึ่ง ที่ทำให้เกิดความสูญเสียและเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ เจ้าของเรือไม่ได้ต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยให้ต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้เป็นเจ้าของเรือจะต้องรับภาระชดใช้ ค่าเสียหายแก่ผู้ประสบภัยเอง จึงนับเป็นอุทาหรณ์ให้เจ้าของเรือพึงตระหนักและตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุและควรปฏิบัติตามกฎหมายรวมทั้งควรจะมีการทำประกันภัยไว้อย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา ทั้งนี้ อุบัติเหตุเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยมิได้คาดคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มี ภัยธรรมชาติทางน้ำเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงขอเชิญชวนให้เจ้าของเรือที่ยังไม่ได้มีการทำประกันภัยสำหรับผู้โดยสารเรือโดยสารรับจ้างไว้ หรือยังไม่ได้ต่ออายุการประกันภัยให้เร่งจัดทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองผู้โดยสารหากเกิดภัยพิบัติดังกล่าวโดยเสียเบี้ยประกันภัยไม่มากนัก หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันภัย ดังกล่าวสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์ หมายเลข 0-2547-4550 หรือสายด่วนประกันภัย 1186
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดแผ่นดินไหว ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา และทำให้เกิดเหตุการณ์ธรณีพิบัติจากคลื่นใต้น้ำ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 เป็นผลให้ประชาชนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้ง ทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมการประกันภัยได้ทำการเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยจ่ายเงินผลประโยชน์และค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยรวดเร็วและเป็นธรรมเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งได้มีคำสั่งให้บริษัทประกันภัยรายงานข้อมูลการจ่ายเงินผลประโยชน์และค่าสินไหมทดแทนเป็น รายสัปดาห์ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548 บริษัทประกันภัยต่างๆ ได้จ่ายเงินให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 3,199 ล้านบาท โดยแยกเป็นประเภทการประกันภัยดังนี้
1. การประกันชีวิต มีผู้เอาประกันภัยที่เสียชีวิตและสูญหายจำนวนทั้งสิ้น 646 ราย และได้จ่ายเงินผลประโยชน์ให้แก่ผู้รับประโยชน์แล้ว จำนวน 333 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 159 ล้านบาท โดยมี รายละเอียดดังนี้
1.1 มีผู้เอาประกันภัยที่เสียชีวิต จำนวน 451 ราย จากบริษัทประกันชีวิต จำนวน 19 บริษัท และได้จ่ายเงินผลประโยชน์ให้แก่ผู้รับประโยชน์แล้ว จำนวน 328 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 157ล้านบาท
1.2 มีผู้เอาประกันภัยที่สูญหาย จำนวน 195 ราย จากบริษัทประกันชีวิต จำนวน 14 บริษัท และได้จ่ายเงินผลประโยชน์ให้แก่ผู้รับประโยชน์แล้ว จำนวน 5 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1.58 ล้านบาท ซึ่งตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ผู้ที่สูญหาย หรือเสียชีวิตโดยหาศพไม่พบจะมีสิทธิได้รับเงินหลังวันที่
1 เมษายน 2548 เป็นต้นไป
2. การประกันวินาศภัย มีทรัพย์สิน/บุคคลที่มีการทำประกันภัยและได้รับความเสียหายจำนวน 5,649 ราย แต่คาดว่าจะมีทรัพย์สิน/บุคคลที่มีสิทธิได้รับความคุ้มครอง จำนวน 2,047 ราย จากบริษัทประกันวินาศภัย จำนวนทั้งสิ้น 54 บริษัท ซึ่งได้มีการจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทน/ค่าทดแทนแล้วจำนวน 1,673 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,040 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.1 การประกันภัยทรัพย์สิน มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแล้วจำนวน 577 ราย เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 2,648 ล้านบาท
2.2 การประกันภัยรถยนต์ มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแล้วจำนวน 741 ราย เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 294 ล้านบาท
2.3 การประกันภัยบุคคล มีการจ่ายเงินแล้วจำนวน 331 ราย เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 97 ล้านบาท
2.4 การประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร และอุบัติเหตุเอื้ออาทรนักเรียน มีผู้เอาประกันภัย เสียชีวิตจำนวน 24 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1.2 ล้านบาท
นางสาวพจนีย์ ฯ ได้กล่าวว่า การที่ผู้เอาประกันภัยหรือทายาทได้รับค่าเสียหายทดแทนหรือ เงินผลประโยชน์ไปแล้วจำนวน 3,199 ล้านบาทนั้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทประกันภัยต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือในการเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนและเงินผลประโยชน์ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งกรมการประกันภัยต้องขอชมเชยมาในโอกาสนี้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่เกิดความเสียหายบางส่วน ( Partial Loss ) นั้น จะต้องใช้เวลาในการสำรวจภัยและประเมินความเสียหาย จึงทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทน นานกว่ากรณีที่เป็นความเสียหายโดยสิ้นเชิง (Total Loss) นอกจากนี้ ยังมีทายาทของผู้เสียชีวิตและผู้เอาประกันภัยที่ยังไม่ได้ทำการเรียกร้องเงินผลประโยชน์หรือค่าสินไหมทดแทน จึงขอให้รีบดำเนินการเพื่อที่จะได้รับเงินผลประโยชน์ หรือค่าสินไหมทดแทน ต่อไป
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุดจนถึง วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548 มีผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตและสูญหาย ได้ทำประกันชีวิตไว้จำนวน 670 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัย 315.46 ล้านบาท โดยแยกเป็นผู้เอาประกันภัยที่เสียชีวิตจำนวน 475 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัย 224.37 ล้านบาท ผู้เอาประกันภัยที่สูญหายจำนวน 195 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัย 91.09 ล้านบาท
จากจำนวนผู้เอาประกันภัยที่เสียชีวิตดังกล่าว แยกเป็นผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันภัยราย
บุคคลและรายกลุ่มจำนวน 451 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัย 221.49 ล้านบาท จำนวนผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันภัยเอื้ออาทรจำนวน 8 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัย 2.4 ล้านบาท ผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันภัยเอื้ออาทรนักเรียนจำนวน 16 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัย 0.48 ล้านบาท ในจำนวนนี้บริษัทประกันชีวิตได้มีการจ่ายเงินผลประโยชน์ให้กับผู้รับประโยชน์หรือทายาทแล้วจำนวน 341 ราย เป็นจำนวนเงิน 158.15 ล้านบาท
จำนวนผู้เอาประกันภัยที่เป็นผู้สูญหายดังกล่าว บริษัทประกันชีวิตได้มีการจ่ายเงิน ผลประโยชน์แล้วจำนวน 5 ราย เป็นจำนวนเงิน 1.58 ล้านบาท
อธิบดีกรมการประกันภัย ยังเปิดเผยด้วยว่า กรมการประกันภัยได้ประสานงานกับบริษัทประกันชีวิตให้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม โดยที่ทุกบริษัทได้ดำเนินการชดใช้เงินตามกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์และทายาททุกราย ไม่มีการปฏิเสธการชดใช้เงินแม้แต่รายเดียว สำหรับสาเหตุที่บริษัทประกันภัยยังมิได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับประโยชน์และทายาท เนื่องจาก
1. ผู้เอาประกันภัยและผู้รับประโยชน์เสียชีวิตพร้อมกัน ยังไม่มีทายาทผู้เสียชีวิตมายื่นขอ
รับเงินตามกรมธรรม์ประกันภัย
2. ผู้รับประโยชน์บางรายเป็นผู้เยาว์ ต้องใช้ระยะเวลาในการร้องขอต่อศาลในการตั้งผู้ใช้
อำนาจปกครองผู้เยาว์
3. กรณีร้องขอต่อศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่งต้องรอระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
ดังนั้น จึงขอให้ทายาทตามกฎหมายของผู้ที่ประสบภัยจากเหตุธรณีพิบัติ ดำเนินการแก้ไข
ปัญหาขัดข้องในเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว และหากมีข้อสงสัยประการใดโปรดติดต่อกรมการ ประกันภัย โทร. 0-2547-4581-7 ได้ในวันและเวลาราชการต่อไป
เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)
ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว
คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย