muangthai agent เมืองไทยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ตัวแทนประกันชีวิต ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน ประกันชีวิตออนไลน์ ประกันชีวิตลดหย่อนภาษี
การวางแผนเกษียณหลายคนอาจมองเป็นเรื่องไกลตัว โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่ยังมุ่งมั่นกับการทำงาน ยังคิดว่าอีกนานกว่าจะเกษียณ ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตไป แต่อย่าลืมว่ายิ่งอายุมากขึ้น ร่างกายก็ย่อมเสื่อมถอยตามกาลเวลา ต้องมีสักวันที่เราเจ็บป่วย เมื่อถึงเวลานั้นจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนหาเงินมารักษาตัวเอง แน่นอนว่าการมี ประกันชีวิตและสุขภาพ
คือทางเลือกที่ใครหลายคนอาจหลงลืมว่าเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงในชีวิตบั้นปลายได้เป็นอย่างดี หรือหากใครยังมองไม่ออกว่าจะวางแผนเกษียณอย่างไรให้ตัวเองใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างมั่นคง เมืองไทยประกันชีวิตก็นำเคล็ดลับดีๆ มาฝากอีกเช่นเคย
1. วางแผนเรื่องรายได้ อันดับแรกที่ขาดไม่ได้เลยคือการวางแผนเรื่องรายได้ ว่าเรามีความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงอาชีพ หน้าที่การงาน หรือแหล่งรายได้ที่มีจะมั่นคงยืนยาวไปได้นานแค่ไหน
2. คำนวณรายได้หลังเกษียณ เมื่อสำรวจรายได้ในการวางแผนหลังเกษียณแล้ว ก็ต้องสำรวจเงินได้หลังเกษียณด้วยว่าเราจะได้จากแหล่งไหนบ้าง พร้อมคำนวณว่าแต่ละเดือนจะได้เท่าไหร่ เพียงพอต่อการดำรงชีพหรือไม่ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) กองทุนบำเหน็จบำนาญ (กบข.) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) รายได้จากเงินปันผล เป็นต้น
3.วางแผนค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ เมื่อวางแผนเรื่องรายได้ระยะยาว และคำนวณรายได้หลังเกษียณแล้ว ต่อมาควรตั้งเป้าหมายว่าเราจะเกษียณตอนอายุเท่าไหร่ หลังเกษียณแล้วต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหน muangthai agent นอกจากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ยังต้องเผื่อยามเจ็บป่วยด้วย หลายท่านอาจปวดหัวว่ามีเงินเก็บเท่าไหร่ถึงจะพอในการใช้ชีวิตบั้นปลาย? ซึ่งการเก็บออมและลงทุนในกองทุนต่างๆ ก็เป็นทางเลือกที่หลายท่านได้วางแผนไว้รองรับในอนาคต
4. ประเมินและทำตามแผนที่วางไว้ ต่อมาควรทบทวนแผนที่เราวางไว้ ประเมินความเป็นไปได้ในการออมเงิน การลงทุนในกองทุนต่างๆ หลังจากนั้นก็เริ่มทำตามแผนที่วางไว้ คอยประเมินว่าผลตอบแทนที่ได้เป็นไปตามที่เราคาดการไว้หรือไม่ ระหว่างนั้นหากไม่เป็นไปตามเป้า หรือมีอุปสรรคในเรื่องของหน้าที่การงาน เศรษฐกิจ ก็ควรมีแผนรองรับความเสี่ยงในเรื่องเหล่านี้ด้วย
5. ซื้อประกันชีวิตและสุขภาพ แม้จะออมเงินและลงทุนไว้ตามแผนแล้ว แต่คุณได้วางแผนถึงยามเจ็บป่วยไว้มากน้อยแค่ไหน? เพราะเรื่องสุขภาพโดยเฉพาะยามเราอายุมากขึ้น เจ็บป่วยขึ้นมาก็เรื้อรัง ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นตามการรักษา เงินที่เก็บออมไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณก็อาจหมดไปกับค่ารักษาพยาบาล ดังนั้นการซื้อประกันชีวิตและสุขภาพตั้งแต่ยังมีแรงหารายได้ก็เป็นตัวช่วยในการลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี และหากใครยังมองหาแบบประกันชีวิตและสุขภาพที่คุ้มครองยาวๆ แล้วเมืองไทยประกันก็ได้ออกแบบสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ ที่สมัครได้ตั้งแต่อายุ 18-80 ปี รับความคุ้มครองต่อเนื่องยาว ๆ ถึงอายุ 99 ปี คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล โรคทั่วไปและโรคร้ายทุกระยะ ให้คุณอุ่นใจคลายกังวลเมื่อโรคภัยถามหายามแก่ตัว
หมายเหตุ
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพอีลิท เฮลท์ ต้องซื้อแนบท้ายกับกรมธรรม์ใหม่เท่านั้น
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
การพิจารณารับประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ณ 31 ธันวาคม 2549 บริษัทประกันชีวิตทั้ง 25 บริษัท ได้วางทรัพย์สินสำหรับเป็นเงินสำรองประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันชีวิตซึ่งยังมีผลผูกพันไว้กับกรมการประกันภัย เป็นจำนวนทั้งสิ้น 114,766.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 18.16 ซึ่งมีรายละเอียดทรัพย์สินดังนี้
1.พันธบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 74,082.32 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.55 ของทรัพย์สิน
เงินสำรองที่วางไว้
2.พันธบัตรและหุ้นกู้ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 32,789.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.57
ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
3.ตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 6,094.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อนละ 5.31 ของทรัพย์
สินเงินสำรองที่วางไว้
4.สมุดเงินฝาก ใบรับฝากเงิน จำนวน 1,189.67 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.04 ของทรัพย์สิน
เงินสำรองที่วางไว้
5.หุ้นกู้บริษัทจำกัด จำนวน 554.63 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.47 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่
วางไว้
6.ที่ดินและอาคารที่ใช้เป็นสำนักงานสาขา จำนวน 55.87 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของ
ทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
บริษัทประกันภัยชีวิตจะต้องจัดสรรเบี้ยประกันภัยไว้เป็นเงินสำรองประกันภัยเพื่อจ่ายคืน ให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตหรือผู้รับประโยชน์ในอนาคตตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับลูกค้า เช่น เมื่อครบกำหนดสัญญา เมื่อเสียชีวิต หรือเมื่อเวนคืนกรมธรรม์ ฯลฯ กฎหมายกำหนดให้บริษัทจะต้องนำเงินสำรองประกันภัยมาวางไว้กับกรมการประกันภัยเป็นมูลค่าไม่เกินร้อยละยี่สิบห้าของเงินสำรองประกันภัยทั้งสิ้น
เงินสำรองประกันภัยที่บริษัทประกันชีวิตได้วางไว้กับกรมการประกันภัยนี้เพื่อเป็นหลักประกัน
ความมั่นคงสำหรับผู้ทำประกันภัยกับบริษัทประกันชีวิต ดังนั้นกรมการประกันภัยจึงกำหนดให้บริษัทจะต้อง
นำทรัพย์สินที่มีความมั่นคงสูงเท่านั้นที่วางกับกรมการประกันภัยได้
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย ให้คำเตือนแก่ผู้ขับขี่รถในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวออกท่องเที่ยวในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์เป็นพาหนะ ทำให้มีปริมาณออกสู่ต่างจังหวัดมากกว่าปกติและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต กรมการประกันภัยมีความห่วงใยต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น จึงขอให้ผู้ขับขี่ทุกท่านเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมที่จะขับขี่พร้อมทั้งให้มีความระมัดระวังในการขับขี่ด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาความเสียหายอันเกิดจากอุบัติเหตุ จึงขอแนะนำให้รถทุกคันทำประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกันภัยรถภาคบังคับ ซึ่งจะสามารถให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถ โดยการประกันภัยรถภาคบังคับ จะให้ความคุ้มครองชีวิตและร่างกายเท่านั้น ในกรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท/ราย และถ้าเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจำนวน 100,000 บาท/ราย ทั้งนี้ หากต้องการความคุ้มครองส่วนที่เกินกว่าวงเงินความคุ้มครองของการประกันภัยรถภาคบังคับและรวมไปถึงทรัพย์สินของบุคคลภายนอกด้วย ก็ควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติม ซึ่งมีให้เลือกซื้อถึง 4 ประเภท คือ การประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ประเภท 2 ประเภท 3 และประเภท 4
อธิบดีกรมการประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์ ขณะนี้ก็มีกฏหมายกำหนดให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องซื้อประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางคุ้มครองนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยบริษัทประกันภัยที่เป็นผู้รับประกันภัยจากบริษัททัวร์นั้นๆ จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ประสบอุบัติเหตุ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร รายละไม่เกิน 200,000 บาท ส่วนคนที่บาดเจ็บก็จะมีค่ารักษาพยาบาลให้รายละไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งการคุ้มครองนี้ไม่จำกัดเฉพาะในประเทศไทยแต่คุ้มครองไปทั่วโลก และการประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางนี้ ไม่ได้มีขายแค่บริษัททัวร์เท่านั้น คนทั่วไปที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวแต่ไม่ชอบไปกับบริษัททัวร์ ก็สามารถติดต่อซื้อได้จากบริษัทประกันภัย โดยถ้าเดินทางคนเดียวก็ซื้อแบบรายบุคคล หรือเดินทางเป็นกลุ่มก็ซื้อทั้งคณะ จ่ายเบี้ยประกันภัยวันหนึ่งตกไม่เกิน 15 บาทต่อคน สำหรับคุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรในวงเงิน 100,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลอีก 10,000 บาท หรือจะซื้อประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางต่างประเทศแบบรายเที่ยวเป็นแบบแพ็คเก็จ เช่น คุ้มครองการเสียชีวิตหรือการสูญเสียอวัยวะเนื่องจากอุบัติเหตุ วงเงิน 2,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย วงเงิน 2,000,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน/การส่งศพกลับประเทศ วงเงิน 2,000,000 บาท ระยะเวลา 7 วัน คิดค่าเบี้ยประกันภัยประมาณ 386 บาท ซึ่งมีบริษัทประกันภัยหลายๆ แห่งขาย และหากมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 โดยกรมการประกันภัยได้จัดเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชนที่มีข้อสงสัยเรื่องการประกันภัยในช่วงวันหยุดปีใหม่นี้
กรมการประกันภัย เตือนผู้ใช้รถตรวจสอบการทำประกันภัยและวันหมดอายุ ก่อนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า กรมการประกันภัยเล็งเห็นถึงความสำคัญของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาจเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุอันเกิดจากรถในช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัดและท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางทำให้ปริมาณรถบนท้องถนนคับคั่ง กรมการประกันภัย จึงมีความห่วงใยในอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ โดยจะได้ประสานสำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด เตรียมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและเป็นศูนย์กลางประสานงานเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับจากการทำประกันภัย ตลอดจนอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัยในการเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัย เพื่อให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม นอกจากนี้ กรมการประกันภัยจะจัดเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชนที่มีข้อสงสัยเรื่องการประกันภัยในช่วงวันหยุด โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ทางโทรศัพท์ สายด่วนประกันภัย 1186
สำหรับการประกันภัยรถนั้น แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. การประกันภัยรถตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นการประกันภัยรถภาคบังคับที่เจ้าของรถทุกคันต้องทำประกันภัย โดยผู้ประสบภัยทุกคนจะได้รับความคุ้มครองในด้านค่ารักษาพยาบาลวงเงินสูงสุด รายละไม่เกิน 50,000 บาท กรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 100,000 บาท
2. การประกันภัยรถภาคสมัครใจ หรือการประกันภัยประเภท 1 ประเภท 2 ประเภท 3 และประเภท 4 ซึ่งเป็นการประกันภัยที่ขยายความคุ้มครองในส่วนที่เกินวงเงินคุ้มครองของการประกันภัยรถตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ และยังให้ความคุ้มครองรวมไปถึงทรัพย์สินของบุคคลภายนอกด้วย
อธิบดีกรมการประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอให้เจ้าของรถมีการตรวจสอบการทำประกันภัยรถตาม พ.ร.บ. ตลอดจนวันหมดอายุของการทำประกันภัยก่อนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ และตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในระหว่างขับขี่เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
จากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2549 เวลา 16.00 น. รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เสียหลักเฉี่ยวชนกับรถโดยสาร บริเวณถนนสายแม่สอด-ตาก ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 24 ราย
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า รถคันที่เกิดอุบัติเหตุทั้ง 2 คัน มีเพียงการประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.) โดยรถบรรทุกพ่วง ซึ่งส่วนหัวลากจูงหมายเลขทะเบียน 80-3414 ตาก ได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด และตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 80-3297 ได้ทำประกันภัยไว้กับ บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด สำหรับรถยนต์โดยสารหมายเลขทะเบียน 30-0172 นครสวรรค์ ได้ทำประกันภัยไว้กับ บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด ซึ่งขณะนี้ทราบผลคดีแล้วว่ารถบรรทุกพ่วงเป็นฝ่ายประมาท ผู้ประสบภัยและทายาทผู้เสียชีวิตจะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยตาม พ.ร.บ.ของรถบรรทุกพ่วงทั้งส่วนหัวลากจูงและตัวพ่วงรวม 2 กรมธรรม์ จากบริษัท วิริยะประกันภัยฯ และบริษัท ส่งเสริมประกันภัยฯ ดังนี้
1. ทายาทของผู้เสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทน 2 กรมธรรม์ๆ ละ 100,000 บาท รวมเป็น 200,000 บาท
2. ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ สามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงและค่าอนามัยตามความเหมาะสม 2 กรมธรรม์ๆ ละไม่เกิน 50,000 บาท รวมเป็นไม่เกิน 100,000 บาท ยกเว้นผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายประมาทสามารถเรียกร้องได้เพียงค่าเสียหายเบื้องต้น เป็นค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาทเท่านั้น
ขณะนี้กรมการประกันภัยได้ประสานไปยังบริษัท วิริยะประกันภัยฯ ที่รับประกันภัยรถบรรทุกพ่วง และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ซึ่งจะดำเนินการจ่ายแทนบริษัท ส่งเสริมประกันภัยฯ เนื่องจากไม่มีสาขาอยู่ในพื้นที่ ให้เร่งพิจารณาดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ประสบภัยและทายาทโดยเร็วต่อไป
นางจันทราฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน รวมทั้งเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด หมั่นตรวจสอบสภาพรถก่อนใช้งานและที่สำคัญควรตรวจสอบการประกันภัยรถของท่านว่ามีผลคุ้มครองอยู่ เพราะหากหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุไม่ได้ การประกันภัยจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนหรือความสูญเสียในเบื้องต้นได้ หากมีปัญหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับการประกันภัยรถยนต์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 กลุ่มคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขต และสำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ในปี 2548 ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยสาเหตุต่างๆ จำนวน 36,645 ราย ลดลงจากปีก่อน 742 ราย หรือลดลงในอัตราร้อยละ 1.98 คิดเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยตามกรมธรรม์หลัก 3,884.18 ล้านบาท จำนวนเงินเอาประกันภัยอุบัติเหตุ 478.24 ล้านบาท และจำนวนเงินเอาประกันภัยอนุสัญญาอื่น ๆ 392.39 ล้านบาท โดยมีสาเหตุการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ โรคมะเร็ง ร้อยละ 20.06 โรคหัวใจ ร้อยละ 15.55 และเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ ร้อยละ 10.32
นางจันทรา บูรณฤกษ์ ได้กล่าวเน้นว่า “ในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงเป็นจำนวนมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลค่อนข้างสูง ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่ารักษาพยาบาลดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงควบกับการประกันชีวิตได้ แต่ก่อนจะซื้อประกันภัยผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่เคยป่วยเป็นโรคดังกล่าวมาก่อน แต่ภายหลังจากซื้อประกันภัยแล้ว เกิดเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งหรือโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ซื้อความคุ้มครองไว้”
นอกจากนี้ ยังมีความคุ้มครองอื่น ๆ ที่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้อีก เช่น การประกันอุบัติเหตุคุ้มครองการสูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพ การประกันสุขภาพ ฯลฯ การซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมนี้ จะทำเป็นสัญญาแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยปีต่อปีเท่านั้น หากไม่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม ผู้เอาประกันกันภัยก็สามารถบอกเลิกสัญญาได้ โดยไม่กระทบกระเทือนต่อกรมธรรม์ประกันภัยที่ทำไว้เดิม
จากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2549 เวลาประมาณ 11.00 น. รถยนต์โดยสารนำเที่ยวพาพนักงานบริษัทเวิลด์เบดดิ้งไปสัมมนาที่ อ.ไทรโยค เกิดเหตุเสียหลักพลิกคว่ำตกลงข้างทาง บนถนนสายวังโพธิ์ หมู่บ้านบางโพธิ์ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 รายบาดเจ็บ 24 ราย
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ารถคันที่ประสบอุบัติเหตุหมายเลขทะเบียน 12-6956 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.) และประกันภัยภาคสมัครใจประเภท 3 ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ซึ่งผู้ประสบภัยและทายาทผู้เสียชีวิตสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัย ดังนี้
1. ทายาทของผู้เสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยรวมทั้งสิ้นรายละไม่เกิน 400,000 บาท โดยได้รับจากการประกันภัยตาม พ.ร.บ.รายละ 100,000 บาท และการประกันภัยประเภท 3 ในส่วนของความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกตามความเหมาะสมหรือตามฐานานุรูป รายละไม่เกิน 250,000 บาท และในส่วนของการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลรายละ 50,000 บาท ยกเว้นทายาทของผู้ขับขี่ที่เสียชีวิต จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นจากการประกันภัยตามพ.ร.บ.เป็นค่าปลงศพจำนวน 35,000 บาท และการประกันภัยประเภท 3 ในส่วนของการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลอีก 50,000 บาท
2. ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ สามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงและค่าอนามัยตามความเหมาะสมรายละไม่เกิน 400,000 บาท โดยได้รับจากการประกันภัยตาม พ.ร.บ.รายละไม่เกิน 50,000 บาท และการประกันภัยประเภท 3 ในส่วนของความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกตามความเหมาะสมหรือตามฐานานุรูป รายละไม่เกิน 250,000 บาท และในส่วนของการประกันภัยค่ารักษาพยาบาลรายละไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ กรมการประกันภัยได้ประสานกับบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถคันดังกล่าว ให้ประสานกับทางโรงพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัยในการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นกับบริษัทฯโดยตรง และเร่งพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้ประสบภัยโดยเร็วต่อไป
นางจันทราฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านควรศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง ใส่ใจป้ายและสัญลักษณ์ต่างๆบนเส้นทางและขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุ หากแม้หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุไม่ได้ การทำประกันภัยรถยนต์จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนหรือความสูญเสียได้ หากมีปัญหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับการประกันภัยรถยนต์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 กลุ่มคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขต และสำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด
เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)
ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว
คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย