muangthaiagent.vip เมืองไทยประกันชีวิต กรุงเทพ


muangthaiagent.vip เมืองไทยประกันชีวิต กรุงเทพ ประกันกลุ่ม ประกันออนไลน์ สมัครประกันออนไลน์ ประกันชีวิต สมัครประกันชีวิต สมัครประกันชีวิตออนไลน์ ประกันชีวิตออนไลน์ ขายประกันชีวิต

เตรียมตัวเดินทาง กลับบ้านปลอดภัย ในยุคโควิด 19 คุ้มครองเหมาจ่ายประกันสุขภาพสุขภาพ ใกล้ถึงวันหยุดยาวกับเทศกาลสงกรานต์กันแล้ว หลาย ๆ คนคงเริ่มเตรียมพร้อมจองตั๋ว รถทัวร์ เครื่องบิน ไว้ไปพักผ่อนกันยาว ๆ ซึ่งวันสงกรานต์ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ใครหลายคนรอคอย เพราะนอกจากจะได้หยุดพักผ่อนไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แล้ว ยังถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะเดินทางกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว หรือคนรักที่ต่างจังหวัดอีกด้วย

แต่ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ที่เข้ามาระบาดและยังไม่หายไป ทำให้คนส่วนใหญ่มักไม่กล้ากลับบ้านต่างจังหวัด เพราะกลัวนำเชื้อไปติดผู้สูงวัยในครอบครัว ดังนั้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังต้องระวังการติดเชื้อโควิด19 การวางแผนเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำ สำหรับใครที่ยังจำเป็นต้องเดินทางอยู่ วันนี้เรามีวิธีเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านให้ปลอดภัย ในยุคโควิด 19 มาฝากกัน จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูเลย !

ก่อนการเดินทาง อย่างแรกเลยคือต้องมีการเตรียมตัวกันก่อนนน ! ไม่ว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดหรือไปเที่ยวพักผ่อนก็ตาม เพราะด้วยความที่เป็นเทศกาลหยุดยาว สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งจึงเต็มไปด้วยผู้คน การเดินทางจึงต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า รวมถึงการเตรียมพร้อมทั้งร่างกาย ยานพาหนะก็เช่นกัน ดังนี้

พักผ่อนให้เต็มที่ การเดินทางในช่วงเทศกาล ต้องเตรียมพร้อมมากกว่าปกติ เพราะการจราจรที่คับคั่งจะเพิ่มความเหนื่อยล้าได้มากกว่าการเดินทางช่วงเวลาปกติ ควรนอนให้พอ โดยเฉพาะคนที่ต้องขับรถ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หรือกินยาที่ทำให้ง่วง เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้
ตรวจเช็กสภาพรถ

เดินทางด้วยรถส่วนตัว ปลอดภัยต่อการเสี่ยงติดเชื้อ แต่ควรเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทางด้วยนะ เช่น น้ำมันเบรก ผ้าเบรก น้ำมันเครื่อง ที่ปัดน้ำฝน สัญญาณไฟทุกดวง หม้อน้ำ รวมถึงลมยาง หากใครไม่เชี่ยวชาญลองให้ศูนย์รถใกล้บ้านเช็กเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนเลย
ศึกษาเส้นทาง

จะไปไหนควรแพลนล่วงหน้า เพราะเทศกาลแบบนี้อาจเจอรถติดแบบมหาศาล ลองเช็กเส้นทางลัดที่ปลอดภัย รวมถึงลักษณะถนนโค้งมากโค้งน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เพราะหากหลงทางอาจเกิดอันตรายและทำให้เสียเวลาได้
เงินในกระเป๋าต้องพร้อม

แม้ตอนนี้จะมีการรับชำระด้วยการโอน เพราะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่การสำรองเงินสดให้เพียงพอในกระเป๋านั้นก็สำคัญ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าสถานที่ข้างหน้าจะมีตู้ ATM หรือรับบัตรเครดิตการ์ดหรือไม่ การเตรียมเงินสดไว้จึงเป็นทางออกที่ควรเตรียมพร้อมไว้

ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 19 อย่างเคร่งครัด เตรียมตัวก่อนนออกเดินทางไปแล้ว ลำดับต่อมาที่ต้องทำและสำคัญมากคือ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนใกล้ไกลยังไง ให้ท่องไว้ตลอดว่าอย่าประมาท การ์ดห้ามตกเด็ดขาด อย่าคิดแค่ว่าไปใกล้ ๆ ไม่ค่อยมีคน แล้วจะไม่สวมหน้ากากอนามัยแบบนั้นไม่เอา เพราะคิดแบบนี้เกมกันหลายคนแล้ว

ไม่ว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดหรือไปเที่ยวพักผ่อนก็ตาม ถ้าอยากไปเที่ยวแบบสบายใจไร้กังวล และไม่นำเชื้อไปติดคนที่บ้าน แนะนำทุกคนให้ความร่วมมือและปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้าง ดังนี้

Social Distancing muangthaiagent.vip รักษาระยะห่าง 1-2 เมตร
สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง
หมั่นล้างมือด้วยสบู่ล้างมือหรือ หรือเจลแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการนำมือสัมผัสใบหน้า
หลีกเลี่ยงใช้สิ่งของหรือภาชนะต่าง ๆ ร่วมกัน
ฉีดวัคซีนให้ครบโดส

เดินทางไกลอะไรก็เกิดขึ้นได้ แนะนำให้เพิ่มความมั่นใจกับทริปพิเศษด้วยการซื้อประกันสุขภาพไว้ เพราะในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บมีมากมายรอบตัว ทั้งโควิด 19 และโรคร้ายแรงทั่วไป ซึ่งถึงแม้จะเราป้องกันดูแลตัวเองดีแค่ไหนก็อาจพลาดพลั้งได้

ดังนั้นการมีประกันสุขภาพไว้มั่นใจกว่า สบายใจทั้งตัวเราและคนในครอบครัวเจ็บป่วยแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาลก้อนโต คุ้มครองทั้งโรคระบาด โรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคเก่าที่วนมาเกิดซ้ำได้ หรือโรคอุบัติใหม่ ก็มั่นใจได้ และยังครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม

โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย นอกจากประกันสุขภาพที่ควรมีแล้ว อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็สำคัญ เพราะเหตุการณ์ฉุกเฉินมักเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นก่อนขับรถทางไกลในวันหยุดยาว เราควรเตรียมของใช้จำเป็นและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ แล้วต้องหาตัวช่วยระหว่างเดินทางคงจะเป็นไปได้ยาก แถมอาจกระทบแผนการเดินทางด้วย ของใช้ที่จำเป็นและอุปกรณ์ฉุกเฉินที่ควรมี ดังนี้

น้ำดื่มสะอาด ช่วยให้หายเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
แว่นกันแดด ที่เป็นทั้งพรอพ และช่วยลดอาการแสบตาจากการขับรถ
Power Bank ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร
พกยาประจำตัว และยาสามัญประจำบ้านไว้เสมอ
ใครที่ใช้รถส่วนตัว ควรเตรียมยางอะไหล่และสายพ่วงแบตเตอรีให้พร้อม
บันทึกเบอร์ฉุกเฉินต่าง ๆ ไว้ในมือถือ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้โทรขอความช่วยเหลือได้ทันที
ไฟฉาย กรณีหลงทางหรือรถเสียในเวลากลางคืน

ใครที่ตั้งใจไปเที่ยวพักผ่อน ข้อนี้สำคัญ ! เพราะการเลือกที่พักในแต่ละครั้ง ต้องคำนึงถึงความสะอาดเป็นอันดับแรก เช่น ตรวจดูก่อนว่า สถานที่เข้าพักมีขั้นตอนความปลอดภัยอย่างไร และเราควรดูแลตัวเองด้วยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องจับต้องบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ เช่น สวิทช์ไฟ ก็อกน้ำ เป็นต้น

และลองมองหาสถานที่ใหม่ ๆ เที่ยวนอกกรอบดูบ้าง เพราะสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเรา ยังมีจุดเช็กอินฟิน ๆ อีกเยอะมาก อาจไม่ต้องเลือกสถานที่ฮิต เพราะรถติดแน่นอน แถมยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อไปอีก แนะนำให้ลองเที่ยวแบบเชิงธรรมชาติ หรือเที่ยวในชุมชนคนท้องถิ่น เพราะนอกจากได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้สัมผัสธรรมชาติแบบอากาศปลอดโปร่งแล้ว ยังช่วยหลีกเลี่ยงความแออัดจากผู้คนในสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ อีกด้วย

เทคนิคดูแลหัวใจ สูงวัยว้าวุ่น สุขภาพประกันสุขภาพ วันวาเลนไทน์ 2565 ใกล้เข้ามาแล้ว หลายคนคงเตรียมตัวมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับคนที่ตัวเองรัก แต่การดูแลเรื่องความรักอย่างเดียวอาจไม่พอ เพราะการดูแลหัวใจให้แข็งแรงก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ผ่านวันวาเลนไทม์มาหลายครั้งการมีหัวใจที่แข็งแรงก็จะช่วยให้อยู่กับคนที่เรารักได้นาน ๆ เพราะอายุเพิ่มมากความเสี่ยงป่วยโรคหัวใจก็จะยิ่งเพิ่มตาม ซึ่งก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผ่านมาอาจขาดการเอาใจใส่ ที่สำคัญโรคหัวใจยังเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการเสียชีวิตในผู้สูงวัยอีกด้วย ส่วนจะดูแลหัวใจให้แข็งแรงแบบไหนนั้น ตามมาดูกันเลย

เรื่องของหัวใจก็เป็นเรื่องสำคัญของทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว แต่ในผู้สูงวัยต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ความเสื่อมต่าง ๆ ของร่างกายก็เพิ่มตามมาด้วย ทำให้ผู้สูงวัยมีความ เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ เช่น เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ โรคหัวใจเต้นผิดปกติ หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ ฉะนั้น การดูแลหัวใจในผู้สูงวัยจึงสำคัญเป็นอย่างมาก หากเริ่มต้นดูแลแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้สูงวัยเข้าใกล้โรคหัวใจนั้น แน่นอนว่าคือความเสื่อมของร่างกาย ซึ่งส่วนมากจะเป็นความเสื่อมของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้พบโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในผู้สูงวัยเป็นส่วนมาก รวมไปถึงการมีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ แต่ก็ยังมีพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กินหวาน มัน เค็มมากเกินไป ไม่กินผักผลไม้ กินอาหารฟ้าสต์ฟู้ดบ่อย ๆ อ้วน ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์ มีความเครียดมากเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ตรวจสุขภาพ เหล่านี้ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้สูงวัยมีความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจได้

การเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจรวมไปถึงโรคร้ายอื่น ๆ ด้วย ซึ่งอันดับแรกของการดูแลสุขภาพหัวใจสูงวัยให้แข็งแรง คือ เริ่มต้นควบคุมอาหารให้พอดี โดยเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ผ่อนคลายความเครียด งดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ หมั่นออกกำลังกาย (ถ้าผู้สูงอายุออกกำลังกายไม่ไหวควรหากิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวทำ เช่น เดิน ทำสวน รดน้ำต้นไม้ ทำงานบ้านเบา ๆ) ลดน้ำหนักส่วนเกิน ควบคุมความดันโลหิต และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี

Whole30 diet ทางเลือกใหม่ของสายเฮลตี้ ประกันสุขภาพสุขภาพประกันชีวิต หากอยากลดน้ำหนักและมีสุขภาพที่ดีขึ้น หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมนอกเหนือจากการออกกำลังกาย คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการกิน ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ได้ผลอีกทางหนึ่ง และวิธีที่กำลังได้รับความสนใจของสายเฮลตี้อยู่ในตอนนี้คือโปรแกรม Whole30 diet โปรแกรมที่เน้นโฟกัสเรื่องของการกินอาหารไม่แปรรูปหรือปรุงแต่งตลอดระยะเวลา 30 วัน และวันนี้เราพามาทำความรู้จักกับทางเลือกใหม่ของสายเฮลตี้กับ Whole30 diet กัน

สำหรับใครที่สงสัยว่า Whole30 diet คืออะไร ว่ากันง่าย ๆ ก็คือโปรแกรมที่เข้ามาช่วยรีเซ็ตสุขภาพโดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการกินตลอดระยะเวลา 30 วัน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าเราต้องมีวินัยและเคร่งครัดถึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด

โดยอาหารที่กินนั้นต้องไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป หรือปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อการรีเซ็ตระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้กลับมาดีขึ้น รวมถึง Whole30 diet ยังช่วยในเรื่องของการรีเซ็ตระบบเผาผลาญ ระบบทางเดินอาหาร ระบบขับถ่าย และช่วยลดน้ำหนักสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างของตัวเองไปพร้อม ๆ กัน

Whole30 diet กินอะไรได้และไม่ได้บ้าง

แม้จะเป็นเรื่องยากที่ต้องบอกลาของโปรด เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการกินของตัวเอง แต่ถ้าแลกมาด้วยสุขภาพที่ดีขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย โดยอาหารแบบไหนบ้างที่โปรแกรม Whole30 diet อนุญาตให้กินได้และไม่ได้ ตลอดระยะเวลา 30 วัน มีดังนี้

อนุญาตให้กิน ได้แก่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ปลา ไข่ ผัก ผลไม้แต่ต้องในปริมาณที่ไม่มาก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก ที่สำคัญต้องกินให้ครบทั้ง 3 มื้อ

ไม่อนุญาตให้กิน ได้แก่ อาหารแปรรูป หรือปรุงแต่งทุกชนิด น้ำตาล ขนมปัง อาหารประเภทถั่วเหลืองรวมถึงซอสปรุงรส ข้าว ธัญพืช นมสัตว์ ถั่ว ชีส โยเกิร์ต เนย น้ำหวาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่

ประโยชน์ของการกิน Whole30 dietประโยชน์ของการกิน Whole30 diet นอกจากช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยให้เรื่องของการดูแลสุขภาพอย่างที่กล่าวไปดังนี้

ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น
ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง
ช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญ
ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
ช่วยลดน้ำหนักไขมันส่วนเกิน
ลดการอยากอาหาร
ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ

จะเห็นได้ว่าประโยชน์การกินตามแผนของ Whole30 diet ต่อเนื่อง 30 วัน ช่วยรีเซ็ตระบบการทำงานของร่างกายให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง เนื่องด้วยสาเหตุจากการกินผัก ที่มีทั้งไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย รวมถึงอาหารของโปรแกรมนี้ยังมีไขมันดีและแคลอรี่น้อยอีกด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุของการรีเซ็ตที่ดีต่อร่างกาย

มะเร็ง หายแล้วก็ต้องดูแลต่อ แม้ว่ามะเร็งจะเป็นโรคร้ายมีอาการที่รุนแรงและต้องรักษาอย่างต่อเนื่องแล้วแต่ระยะของโรค แต่ในปัจจุบันนี้ได้มีการรักษาที่ทันสมัย ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายจากโรคมากขึ้นและร่างกายไม่บอบช้ำจากผลข้างเคียงของการรักษามากจนเกินไป แต่ถึงจะรักษามะเร็งหายแล้วก็ตาม ผู้ป่วยก็ยังต้องดูแลสุขภาพร่างกายหลังจากนั้นต่อเพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูและไม่เสี่ยงกลับไปเป็นมะเร็งซ้ำอีกครั้งนั่นเอง

มะเร็ง คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย โดยเซลล์นั้นจะเจริญเติบโตผิดปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้อและลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ผ่านระบบเลือด หรือระบบทางเดินน้ำเหลือง โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเกิดจาก 2 ปัจจัยด้วยกัน คือ

ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหาร อากาศ เครื่องดื่ม ยารักษาโรค เป็นต้น รวมถึงการได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และพยาธิบางชนิดอย่างพยาธิใบไม้ตับ โดยคนที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งจากปัจจัยนี้ ได้แก่ คนที่สูบบุหรี่และดื่มเหล้าเป็นประจำ คนที่ชอบกินอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสเค็มจัด อาหารที่มีดินประสิว สารอัลฟาทอกซิลซึ่งเป็นเชื้อราที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร เช่น ถั่ว และอาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม รวมถึงคนที่ต้องตากแดดจัดเป็นประจำ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้มากขึ้น
ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน และภาวะทุพโภชนา เป็นต้น โดยคนที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งจากปัจจัยนี้ ได้แก่ ครอบครัวมีประวัติโรคมะเร็ง คนที่เป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไวรัสเอดส์ เป็นต้น

แม้ว่าจะรักษาหายแล้ว แต่มะเร็งสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หากมีปัจจัยเสี่ยงโรคไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายนอกหรือภายในร่างกาย ระยะของโรค การรักษา หรือสภาพร่างกายของผู้ป่วยเอง ล้วนมีผลทำให้มะเร็งกลับมาเป็นซ้ำได้อีก

การรักษาโรคมะเร็งนั้นมีเป้าหมายเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่ตอนที่ทำการรักษาก็อาจทำให้เซลล์ที่ปกติบางส่วนถูกทำลายไปด้วย ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงหลังจากการรักษาได้ โดยความรุนแรงของอาการข้างเคียงจะแตกต่างกันขึ้นกับหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ชนิดของมะเร็ง ส่วนของร่างกายที่ถูกรักษา และปริมาณของการรักษา ซึ่งอาการข้างเคียงส่วนมากมักหายไปหลังเสร็จสิ้นการรักษา แต่หลังจากนั้นผู้ป่วยยังต้องใส่ใจและดูแลสุขภาพให้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยอาการข้างเคียงจากการรักษามะเร็ง มีดังนี้

เบื่ออาหาร
น้ำหนักเปลี่ยนแปลง (เพิ่มหรือลดลง)
เจ็บปากและคอ ปากแห้ง
มีปัญหาบริเวณฟันและเหงือก
การรับรสชาติและกลิ่นเปลี่ยนไป
คลื่นไส้ อาเจียน
ท้องเสีย หรือท้องผูก
แพ้น้ำตาลแลกโตส (พบได้ในนมวัว)
อ่อนเพลีย หรือซึมเศร้า

หลังจากรักษาโรคมะเร็ง ร่างกายของผู้ป่วยจะอ่อนแอและมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น หากผู้ป่วยดูแลตัวเองหลังจากการรักษาอย่างดีจะช่วยให้การรักษาโรคมะเร็งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และเพิ่มโอกาสหายขาดจากโรคมะเร็งอีกด้วย

ดูแลเรื่องอาหาร : ควรกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ถูกหลักอนามัย เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อเสริมสร้างเซลล์ในร่างกายที่ถูกทำลายไป เช่น เนื้อปลา นม และไข่ไก่ต้มสุก ดื่มน้ำให้เพียงพอ 6-8 แก้วต่อวัน นอกจากนี้ ควรเลี่ยงกินอาหารที่ค้างคืน อาหารหมักดอง หรือรมควัน อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ ลดอาหารประเภทไขมัน เกลือ น้ำตาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

หลีกเลี่ยงมลพิษ : ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษต่างๆ ที่อาจไปกระตุ้นการทำงานของมะเร็ง เช่น อยู่ในมลภาวะไอเสียรถยนต์ การสูบบุหรี่หรือรับควันบุหรี่ ซึ่งมีสารกระตุ้นเซลล์มะเร็ง ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนไข้ที่อยู่ในสภาวะภูมิคุ้มกันต่ำได้

ระวังอาการข้างเคียง : อาการข้างเคียงจากการรักษามะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ส่วนมากมักหายไปหลังเสร็จสิ้นการรักษา ซึ่งแพทย์จะจ่ายยาป้องกันอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นให้เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้กับผู้ป่วยในช่วงพักฟื้น หากมีอาการผิดปกติต่างๆ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการต่อไป

นอกจากดูแลในเรื่องอาหารการกินแล้ว ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เดินระยะสั้นเพื่อออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายตามปกติ และดูแลสภาพจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ พูดคุยหรือทำกิจกรรมที่ชอบร่วมกับครอบครัว ก็จะช่วยให้ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจฟื้นฟูหลังจากการรักษามะเร็งได้ รวมถึงลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งซ้ำได้อีกด้วย

โรคมะเร็ง โรคร้ายที่ใครก็มีโอกาสเป็นได้ หากเป็นแล้วต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้น การซื้อประกันสุขภาพเอาไว้ก่อนเจ็บป่วยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งทำให้เราเข้าถึงการรักษาได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น

เพราะสุขภาพของหัวใจไม่ใช่เรื่องไกลตัว ยิ่งเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงป่วยโรคหัวใจก็ยิ่งสูง อย่าลืมตรวจเช็กสุขภาพหัวใจเป็นประจำทุกปี จะได้มีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงอยู่กับคนที่เรารักพร้อมฉลองวันวาเลไทน์ด้วยกันไปอีกนาน แต่เพื่อความอุ่นใจ ให้คุณเสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต คุ้มครองโควิด 19 ทุกสายพันธุ์ รวมถึงโรคระบาด โรคร้ายแรง และโรคทั่วไป วงเงินเลือกได้ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท อายุรับประกันสูงสุด 80 ปี ดูแลต่อเนื่องยาว ๆ สูงสุดถึงอายุ 99 ปี*

*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ และ ดี เฮลท์

ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด

การพิจารณารับประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
การปรับลดระยะเวลารอคอย (waiting period) เหลือ 14 วัน สำหรับการติดเชื้อโรคโควิด 19 เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยเริ่มตั้งแต่ 28 พ.ค. 2564- 28 ก.พ. 2565
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

วันอังคารที่ 25 มีนาคม 2557 | ฉบับที่ 40 / 2557

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีของบริษัทจดทะเบียน (AGM) ซึ่งจัดขึ้นอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปี การประชุมดังกล่าวเป็นเวทีสำหรับผู้ถือหุ้นได้ใช้สิทธิใช้เสียงและซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริหารงานจากกรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชีของบริษัท? และเพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิออกเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก.ล.ต. จัดทำคู่มือ ?สาระต้องรู้ก่อนเข้าประชุมผู้ถือหุ้น? ซึ่งระบุแนวทางการโหวต รวมถึงข้อควรระวังและการตั้งคำถามในการประชุมวาระต่าง ๆ เช่น ลักษณะของกรรมการที่ผู้ถือหุ้นควรและไม่ควรแต่งตั้ง วาระการจ่ายเงินปันผลที่บริษัทต้องกู้เงินมาจ่าย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมสัญญาณอันตราย ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่ผู้ถือหุ้นควรซักถาม? เพราะอาจเป็นช่องทางผ่องถ่ายประโยชน์ออกจากบริษัท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมอีกด้วย

บริษัทที่ดีสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น และบริษัทจะดีก็เพราะผู้ถือหุ้นใส่ใจดูแลและใช้สิทธิของตน? ก.ล.ต. เชื่อมั่นว่าคู่มือสาระต้องรู้ก่อนเข้าประชุมผู้ถือหุ้น จะเป็นประโยชน์ ที่ช่วยให้ผู้ถือหุ้นเข้าประชุม AGM ด้วยความมั่นใจ พร้อมกันนี้ ได้เผยแพร่คู่มือดังกล่าวไว้บนเว็บไซต์ www.start-to-invest.com?หัวข้อ สิทธิผู้ลงทุน และที่โมบายแอพลิเคชั่น ?start-to-invest? ในหัวข้อ สื่อความรู้ ?สาระต้องรู้ก่อนเข้าประชุมผู้ถือหุ้น? > เคล็ดลับการลงทุน

ก.ล.ต. สนับสนุนผู้ลงทุนสถาบันประกาศแนวทางการใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น

วันพุธที่ 26 มีนาคม 2557 | ฉบับที่ 41 / 2557

ผู้ลงทุนสถาบันได้แก่ สำนักงานประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมกันประกาศแนวทางการออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น มุ่งยกระดับบริษัทจดทะเบียนและตลาดทุนไทยให้มีคุณภาพ และเติบโต อย่างยั่งยืน

จากการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันของผู้ลงทุนสถาบันครั้งแรก เพื่อประกาศจุดยืนต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ครั้งนี้ ผู้ลงทุนสถาบัน ได้แก่ สำนักงานประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย พร้อมประกาศความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ในการกำหนดแนวทางการออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นโดยกลุ่มนักลงทุนสถาบัน เพื่อสนับสนุนให้เกิดบรรษัทภิบาลที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ในบริษัทจดทะเบียนและธุรกิจในตลาดทุน

แนวทางดังกล่าว กล่าวถึงเรื่องที่จะถือปฏิบัติเมื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกำกับดูแลบริษัทที่ไปลงทุนในฐานะที่เป็นเจ้าของกิจการ อาทิเช่น กำหนดนโยบายในการไปลงทุนในบริษัท ติดตามผลประกอบการของบริษัทเป็นประจำ มีการนัดประชุมเพื่อหารือกับฝ่ายจัดการของบริษัท และใช้สิทธิลงคะแนนในที่ประชุมผู้ถือหุ้น การให้ความสำคัญกับเหตุผลหรือความจำเป็นของข้อเสนอ ประโยชน์ที่บริษัทและผู้ถือหุ้นโดยรวมจะได้รับในระยะยาว เป็นต้น ทั้งนี้ กลุ่มผู้ลงทุนสถาบันพร้อมที่จะนำมาใช้เป็นมาตรฐานการปฏิบัติในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 เป็นต้นไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *