เอ็กซ์ตร้า แคร์ (NHS)

ค่ารักษาเพิ่ม เกินสวัสดิการก็ยังเอาอยู่
จุดเด่น

จ่ายค่ารักษาส่วนเกินเพิ่มเติมวงเงินส่วนที่ขาด

  • จ่ายส่วนเกินให้ ในส่วนที่เกินจากวงเงินของสวัสดิการที่มีอยู่
  • จ่ายค่ารักษาพยาบาล สูงสุดถึง 400,000 บาท(1)
  • จ่ายให้อีก สำหรับ ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลประจำวัน สูงถึง 6,000 บาท(2) ต่อวัน
  • กลุ่มอาชีพ 1 และ 2 ทำได้ตั้งแต่อายุ 30 วัน -70 ปี, กลุ่มอาชีพ 3 ทำได้ตั้งแต่อายุ 11 ปี– 70 ปี และให้ความคุ้มครองถึงอายุ 81 ปี (3)

 

หมายเหตุ :

(1) สำหรับแผน 3,4 และ 5

(2) สำหรับแผน 5

(3) ระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 1 ปี โดยที่ผู้เอาประกันภัยสามารถต่ออายุได้ถึงอายุ 80 ปี

ทั้งนี้ ต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้ายอยู่

ความคุ้มครอง

ตารางผลประโยชน์การประกันภัยสุขภาพแบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (Extra Care)
          บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์หมวดที่  2 – 5 และ 12 รวมทุกรายการสูงสุดต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง ไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดตามตาราง

ผลประโยชน์/ Benefit ผลประโยชน์ (บาท)
1. ผลประโยชน์กรณีผู้ป่วยใน
หมวดที่ 1 ค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง เมื่อรวมกับการเข้าพักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยวิกฤติแล้ว ไม่เกิน 120 วัน

ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้รับการรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤติ (Intensive Care Inpatient Room) จะจ่ายค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ให้เป็นจำนวน 2 เท่า ของผลประโยชน์สำหรับค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) สูงสุดไม่เกิน 15 วัน

ตามแผนความคุ้มครอง

(บาทต่อวัน)

หมวดที่ 2 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยหรือบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต ค่าบริการทางการพยาบาล  ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์ ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
หมวดย่อยที่ 2.1 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัย จ่ายตามจริง
หมวดย่อยที่ 2.2 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต และค่าบริการทางการพยาบาล จ่ายตามจริง
หมวดย่อยที่ 2.3 ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์ จ่ายตามจริง
หมวดย่อยที่ 2.4 ค่ายา และค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้าน
สูงสุดไม่เกิน 7 วัน
1,000 บาท
หมวดที่ 3 ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ตรวจรักษา ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง  สูงสุดไม่เกิน 120 วัน จ่ายตามจริง
หมวดที่ 4 ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และหัตถการ ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
หมวดย่อยที่ 4.1 ค่าห้องผ่าตัด และค่าห้องทำหัตถการ จ่ายตามจริง
หมวดย่อยที่ 4.2 ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด ค่าเวชภัณฑ์ และค่าอุปกรณ์
การผ่าตัดและหัตถการ
จ่ายตามจริง
หมวดย่อยที่ 4.3 ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทำศัลยกรรมและหัตถการ สำหรับแพทย์ทำศัลยกรรม และหัตถการ (รวมแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัด) (Doctor fee) จ่ายตามจริง
หมวดย่อยที่ 4.4 ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม วิสัญญีแพทย์ (Doctor fee) จ่ายตามจริง
หมวดย่อยที่ 4.5 ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ จ่ายตามจริง
หมวดที่ 5 การผ่าตัดใหญ่ที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (Day Surgery) จ่ายตามจริง
2. ผลประโยชน์กรณีไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
หมวดที่ 6  ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงก่อนและหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน หรือค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
หมวดย่อยที่ 6.1 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงและเกิดขึ้นภายใน 30 วัน ก่อนและหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ไม่คุ้มครอง
หมวดย่อยที่ 6.2 ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในต่อครั้ง สำหรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง ภายใน 30 วันหลังจากออกจากการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งนั้น
(ไม่รวมค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย)
ไม่คุ้มครอง
หมวดที่ 7 ค่ารักษาพยาบาลการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอก ภายใน 24 ชั่วโมง ของการเกิดอุบัติเหตุ
ต่อครั้ง
ไม่คุ้มครอง
หมวดที่ 8 ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู หลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง ไม่คุ้มครอง
หมวดที่ 9 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคไตวายเรื้อรัง โดยการล้างไตผ่านทางเส้นเลือด  ต่อรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย ไม่คุ้มครอง
หมวดที่ 10 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคเนื้องอกหรือมะเร็ง โดยรังสีรักษา
รังสีร่วมรักษา เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษา ต่อรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย
ไม่คุ้มครอง
หมวดที่  11 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง โดยเคมีบำบัด ต่อรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย ไม่คุ้มครอง
หมวดที่  12 ค่าบริการรถพยาบาลฉุกเฉิน  จ่ายตามจริง
(แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในหมวดที่ 1)
หมวดที่ 13 ค่ารักษาพยาบาล โดยการผ่าตัดเล็ก ไม่คุ้มครอง
กรณีมีส่วนร่วมจ่าย
ความรับผิดส่วนแรก (ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง)

สำหรับผลประโยชน์ในหมวดที่ 2 – 5 และ 12

ตามแผนความคุ้มครอง
ค่าใช้จ่ายร่วม (หลังหักความรับผิดส่วนแรก ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง)

สำหรับผลประโยชน์ในหมวดที่ 2 – 5 และ 12

ตามแผนความคุ้มครอง
ผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย ไม่มี

หมายเหตุ
ผลประโยชน์สูงสุด (Limit)
หมายถึง ผลประโยชน์สูงสุดที่บริษัทจะจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยเป็นผลประโยชน์  หมวดที่ 2 – 5 และ 12 รวมกันตามจำนวนที่จ่ายจริง หลังหักความรับผิดส่วนแรก และค่าใช้จ่ายร่วม (ถ้ามี) แล้ว ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง

ความรับผิดส่วนแรก (Deductible)
หมายถึง ความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง

จำนวนที่จ่ายจริง
หมายถึง ค่าใช้จ่ายหลังจากหักการชดใช้ที่ได้รับมาแล้ว จากสวัสดิการของรัฐ สวัสดิการอื่น และ/หรือ กรมธรรม์อื่น ไม่ว่าจะทำไว้กับบริษัทใด

ค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment)
หมายถึง ความรับผิดระหว่างบริษัทประกันภัยและผู้เอาประกันภัยที่ต้องร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล อันจะพึงจ่ายตามจำนวนเงินผลประโยชน์ภายหลัง หักจำนวนความรับผิดส่วนแรก (ถ้ามี)

 

ข้อตกลงคุ้มครอง

              ในขณะที่สัญญาเพิ่มเติมนี้มีผลคุ้มครอง หากผู้เอาประกันภัยได้รับการบาดเจ็บหรือการป่วยเมื่อพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (waiting period) เป็นเหตุให้มีความจำเป็นทางการแพทย์ให้ต้องรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล  บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ตามค่าบริการอัตราทั่วไป สำหรับรายการผลประโยชน์ดังต่อไปนี้ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวนผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือบันทึกสลักหลัง (ถ้ามี) 

  1. ผลประโยชน์กรณีผู้ป่วยใน

ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องเข้ารับการพักรักษาเป็นผู้ป่วยใน บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ ดังนี้
หมวดที่ 1 ค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
– บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าห้อง และค่าอาหาร รวมถึงค่าบริการผู้ป่วยใน
– กรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ในห้องผู้ป่วยวิกฤติ (Intensive Care Inpatient Room) บริษัทจะจ่ายเงินผลประโยชน์สำหรับค่าห้องและค่าอาหาร รวมถึงค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ให้เป็นจำนวน 2 เท่าของผลประโยชน์สำหรับค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) สูงสุดไม่เกิน 15 วัน

หมวดที่ 2 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยหรือบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต ค่าบริการทางการพยาบาล  ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยหรือบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต ค่าบริการทางการพยาบาล ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์ ขณะที่ผู้เอาประกันภัยเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ดังนี้
        หมวดย่อยที่ 2.1 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัย
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับ ค่าตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ ค่าตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและภาพการแพทย์ ค่าบริการรังสีร่วมเพื่อการวินิจฉัย ค่าบริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เพื่อการวินิจฉัย ค่าตรวจหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้า ค่าแพทย์อ่านผลตรวจวินิจฉัยดังกล่าว (ถ้ามี) และค่าบริการทางการแพทย์อื่นเพื่อการตรวจวินิจฉัย
        หมวดย่อยที่ 2.2 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต และค่าบริการทางการพยาบาล
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าบริการทางการแพทย์เพื่อบำบัดรักษาในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้รับการรักษาพยาบาลด้วยรังสีร่วมเพื่อการรักษา รังสีรักษา เวชศาสตร์นิวเคลียร์เพื่อการรักษา (รวมถึงการฝังแร่) ค่ากายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด ค่าบริการโลหิต ค่าบริการเครื่องมือแพทย์ ค่าบริการกายอุปกรณ์ (ไม่รวมค่าอุปกรณ์) ค่าบริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาลบำบัดการรักษา และค่าบริการทางการพยาบาล แต่ไม่รวมถึงค่าบริการทางการพยาบาลเฝ้าไข้พิเศษ
        หมวดย่อยที่ 2.3 ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์ แต่ไม่รวมถึงค่าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ ดังนี้
– เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ(Automated External Defibrillator : AED) เครื่องกระตุกหัวใจ(Defibrillator) หรือเครื่องกระตุ้น (Pacemaker) ที่อยู่ภายนอกร่างกาย
– อวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย กายอุปกรณ์ อุปกรณ์เทียม
– เวชภัณฑ์คงทนใช้ภายนอกร่างกาย (เวชภัณฑ์ 2) เช่น เครื่องมือทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์คงทน
– เครื่องช่วยฟัง แว่นตา คอนแทคเลนส์ เลนส์แว่นตา เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ออกซิเจน เครื่องวัดสัญญาณชีพ (ชีพจร ความดันเลือด อุณหภูมิ) เครื่องช่วยค้ำยันต่างๆ รถเข็นผู้ป่วย
– อวัยวะเทียม เช่น แขนเทียม ขาเทียม ตาเทียม
        หมวดย่อยที่ 2.4 ค่ายาและค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้าน
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ายาและเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้าน เพื่อใช้รักษาต่อเนื่องหลังออกจากการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งนั้น

หมวดที่ 3 ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ตรวจรักษา
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) เพื่อการตรวจรักษา ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์ในขณะที่เข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลนี้

หมวดที่ 4 ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และหัตถการ
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และทำหัตถการ ในขณะที่ผู้เอาประกันภัยต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาล
        หมวดย่อยที่ 4.1  ค่าห้องผ่าตัด และค่าห้องทำหัตถการ
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าห้องผ่าตัด ค่าห้องทำหัตถการ และค่าบริการเครื่องมือทางการแพทย์ในห้องผ่าตัดและห้องทำหัตถการ
        หมวดย่อยที่ 4.2 ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด ค่าเวชภัณฑ์ และค่าอุปกรณ์การผ่าตัดและหัตถการ 
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด ค่าเวชภัณฑ์ และค่าอุปกรณ์ในห้องผ่าตัดที่ใช้เพื่อทำการผ่าตัด(ศัลยกรรม) หรือหัตถการ
        หมวดย่อยที่ 4.3  ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทำศัลยกรรมและหัตถการ สำหรับแพทย์ทำศัลยกรรม  และหัตถการ(รวมแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัด) (Doctor fee)
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าธรรมเนียมในการศัลยกรรมและการทำหัตถการของแพทย์และแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัด (ถ้ามี) ตามที่แพทย์หรือแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัดเรียกเก็บจริง
        หมวดย่อยที่ 4.4  ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม วิสัญญีแพทย์ (Doctor fee)
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าผู้ประกอบวิชาชีพวิสัญญีแพทย์ สำหรับแพทย์วางยาสลบหรือระงับความเจ็บปวด ในการผ่าตัดและการทำหัตถการของแพทย์
        หมวดย่อยที่ 4.5  ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะต่างๆ ได้แก่ ตับ ตับอ่อน ไต หัวใจ ปอด โดยมีสาเหตุจากการที่อวัยวะนั้นอยู่ในระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถกลับมาทำงานได้ดังเดิม และการปลูกถ่ายไขกระดูกด้วยการใช้  Haematopoietic  Stem Cells  ภายหลังการทำ  Bone Marrow  Ablation

หมวดที่ 5 การผ่าตัดใหญ่ที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (Day Surgery)
กรณีผู้เอาประกันภัยได้เข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดใหญ่ที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์เสมือนการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในโรงพยาบาล

  1. ผลประโยชน์กรณีไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน

หมวดที่ 12 ค่าบริการรถพยาบาลฉุกเฉิน
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ารถพยาบาลฉุกเฉินสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้เอาประกันภัยไปหรือมาจากโรงพยาบาล ตามความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องใช้รถพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน รวมถึง ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ และค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่เกิดขึ้นในขณะอยู่ในรถพยาบาลฉุกเฉิน โดยต้องเกี่ยวเนื่องโดยตรงและสอดคล้องกับการบาดเจ็บหรือการป่วยอันเป็นเหตุของการเข้ารับการรักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยในของโรงพยาบาล

รายละเอียดผลประโยชน์ในประกาศคำสั่งนี้ เป็นเพียงการสรุปโดยย่อเท่านั้น ซึ่งการพิจารณาจ่ายผลประโยชน์ในกรณีต่างๆ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความคุ้มครอง คำจำกัดความ และข้อยกเว้น ตามสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (N)

 

หลักเกณฑ์การรับประกัน

ลักษณะและเงื่อนไขของแบบประกันภัย

1. อายุเริ่มของผู้ขอเอาประกันภัย 30 วัน – 75 ปี และความคุ้มครองถึงอายุ 81 ปี (แต่ไม่เกินความคุ้มครองของกรมธรรม์หลัก)
2. การชำระเบี้ยประกันภัย               รายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน และรายเดือน (เป็นไปตามกรมธรรม์หลัก)

ทั้งนี้ จำนวนเบี้ยประกันภัยรายงวดของทั้งกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่า 200 บาท

3. กลุ่มอาชีพที่รับประกันภัย กลุ่มอาชีพ 1, 2 และ 3
4. การตรวจสุขภาพ                      เป็นไปตามระเบียบการตรวจสุขภาพของแบบประกันภัยหลัก
5. การซื้อแนบท้าย 1. ผู้เอาประกันภัยสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมการการประกันภัยสุขภาพ แบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (N) ได้มากกว่า 1 สัญญา โดยหลักเกณฑ์ในการขายให้เป็นไปตามคำสั่งที่ 28/2562

2. สามารถซื้อแนบท้ายได้ทั้งกรมธรรม์ใหม่ และกรมธรรม์เดิม โดยเงื่อนไขของแบบประกันภัยหลักที่สัญญาเพิ่มเติมนี้สามารถแนบท้ายได้มีดังนี้
1. แบบประกันภัยหลักจะต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ ตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป
ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำของแต่ละแบบประกันภัย
2. ระยะเวลาเอาประกันภัยนับแต่วันที่ขอเอาประกันต้องมากกว่า 1 ปี ขึ้นไป

3. ผู้ขอเอาประกันภัยอายุเริ่ม 30 วัน – 10 ปี จำเป็นต้องซื้อพร้อมกรมธรรม์ประกันชีวิตของบิดาหรือมารดา โดยที่กรมธรรม์ประกันชีวิตของบิดาหรือมารดาจะต้องแนบสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพอย่างน้อย 1 สัญญา สำหรับกรณีอื่น ๆ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณารับประกันภัยเป็นราย ๆ ไป

6. การพิจารณาจ่ายสินไหม บริษัทจะพิจารณาจ่ายสินไหมของสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (N) จากใบเสร็จรับเงินฉบับจริงเท่านั้น  ไม่สามารถใช้สำเนาใบเสร็จได้ ฉะนั้นการเสนอขายสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพที่มีการจ่ายสินไหมจากใบเสร็จรับเงินฉบับจริง จึงไม่ควรมีการเสนอขายมากเกินความจำเป็น
7. การเปลี่ยนแปลงสัญญาเพิ่มเติม สำหรับผู้เอาประกันที่มีสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพเดิม และมีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลงเป็นสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพตามคำสั่งนี้  ต้องปฏิบัติตามระเบียบการเปลี่ยนแปลงสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ

ข้อควรระวัง  :  การซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพใหม่ จะต้องมีการเริ่มต้นของระยะการรอคอยใหม่ และโรคที่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยได้จากสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพเดิม หากเป็นโรคเรื้อรังก็จะไม่สามารถเรียกร้องได้จากสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพใหม่ เนื่องจากจะถือเสมือนว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้น ก่อนสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพมีผลบังคับ ทั้งนี้ โปรดชี้แจงแก่ผู้เอาประกันภัยให้ชัดเจนถึงผลดีผลเสียก่อนตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ

 8. การชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิต  อนุญาต ให้ชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตและอนุญาตให้ชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัญชีบัตรเครดิต (CCP)

Reviews

There are no reviews yet.

Be the first to review “เอ็กซ์ตร้า แคร์ (NHS)”

Your email address will not be published. Required fields are marked *