UL Plus เมืองไทยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตออนไลน์ ประกันตลอดชีพ ประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี ลดหย่อนภาษีสูงสุด
อ่านแล้วสุดปังกับสูตรถอดสมการรู้ใจเธอ
“คนรู้ใจ” ชื่อเล่นของสถานะแฟนและคู่รัก ผลจากการที่คนสองคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและมามาจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่ารู้ว่าอีกคนชอบ หรือไม่ชอบอะไร สามารถเดาทางใจและอารมณ์ของคนตรงหน้าได้อย่างแม่นยำ แต่บางครั้งบางที เจ้าแฟนตัวดีก็ดันมอบงานยากในการเดาใจมาให้ด้วยการพูดคำใบ้แบบที่ไม่ยอมพูดมาตรงๆ งานนี้ก็คงต้องงัดวิชาการถอดสูตรสมการ แปลโค้ดคำพูดตีความออกมาให้ตรงใจเธอกันแล้ว
1. สูตรการหาปริมาตรกินแค่ไหนให้เธออิ่ม : “สั่งอะไรมากินดีน๊า”
ความสุขเกิดขึ้นได้ง่ายๆ บนโต๊ะอาหาร ช่วงเวลาประทับใจในทุกครั้งที่ได้ไปทานอาหารกับคนที่รักมักเกิดขึ้นในระหว่างที่เรากินอาหารไป สนทนากันไป และยิ่งถ้าได้กินของอร่อยๆ แบบที่แฟนชอบด้วยแล้วล่ะก็ รับความประทับใจแบบเต็มสิบไปเลย ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาหรือเธอเริ่มพูดถึงเมนูอาหารต่างๆ หรือเกริ่นคำใดคำหนึ่งออกมาอย่าง “เมนูนี้น่ากินไหม” หรือแบบว่า “ไหนดูสิ๊มีเมนูอะไรน่ากินในแอปบ้าง” ให้คุณรู้ไว้เลยว่า
My Love กำลังชวนเรากินของอร่อยอยู่ ให้เรารีบช่วยเลือกเมนู หรือลองแนะนำร้านเด็ดเมนูดังที่กำลังอยู่ในกระแส ทีนี้หวานใจเราก็จะเริ่มสนุกไปกับการหาของกิน ปล่อยให้เขาได้กินของตามต้องการ
2.สูตรเช็กสถิติออกเดทที่ไหนกำลังฮิต : “เนี่ยเพื่อนแชร์มาในไลน์ ทะเล/ภูเขา มันสวยเนอะ”
ถ้าให้จินตนาการสถานที่เดทสุดโรแมนติกคงหนีไม่พ้นการได้ไปเที่ยวกับคนที่รัก ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่มี Notification เด้งมาว่าสุดที่รัก Tag บางสิ่งบางอย่างหาเรา ไม่ว่าจะเป็นรีวิวที่เที่ยว หรือรูปถ่ายสถานที่สวยๆ ให้รู้ตัวไว้เลยว่าเขากำลังชวนเราเที่ยว อยากให้เราได้พาเขาไปพักกายพักใจกับสถานที่สวยๆ แบบที่เขาอยากไป หรือบางทีก็อยากจะไปถ่ายรูปสวยๆ เอาไว้อัพในโซเชียลให้เพื่อนๆเขามากดไลก์ งานนี้เราอาจจะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีถ่ายรูปแฟนอย่างไรให้ออกมาปังสุดๆ เผื่อเอาไว้พิชิตใจเธอ
3.สูตรการหาพื้นที่สี่เหลี่ยมหน้ากากผ้าแห่งความห่วงใย : ”ล้างมือใส่แมสด้วยนะ”
ยามเมื่อโควิดมาไม่ว่าใครต่างก็มีความกังวล และยิ่งกับคนที่เรารักที่เพราะโควิดทำให้เราต้องห่างไกลกันสักพัก ทีนี้พอห่างกัน แน่นอนว่าคงต้องเกิดอาการห่วงใยว่าคุณแฟนจะไม่ดูแลตัวเอง เลยก็ต้องย้ำเตือนเรื่องการรักษาความสะอาดอยู่เป็นประจำ ซึ่งอันที่จริงแล้วคุณแฟนสายรักสะอาดแบบนี้น่าจะมีกันอยู่บ้าง คนที่คอยบอกให้เราอาบน้ำ ทำความสะอาดเสื้อผ้า รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพของเราให้ดี ที่เขาทำแบบนี้ก็เพราะเขาต้องการที่จะดูแลเราให้ดีที่สุด ซึ่งเมื่อคุณแฟนห่วงใยมา เราก็ห่วงใยกลับไปแบบไม่มีโกงกับการเติมเต็มความมั่นใจว่าเราจะห่างไกลโควิดด้วยCovid 19 ซื้อไว้อุ่นใจกว่า ซื้อคู่แบบ Couple กันไปเลย รับความคุ้มครองหากต้องรักษาโควิด แต่ถ้าไม่ติดเชื้อก็กลายเป็นเครื่องเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตไปนั่นเอง
4.สูตรความน่าจะเป็นทำบุญด้วยอะไรให้ชีวิตคู่ดี๊ดี : “พรุ่งนี้ตื่นเช้าหน่อยไปทำบุญกัน”
คู่รักสายบุญ UL Plus
หมั่นเติมความรักให้หวานอยู่เสมอด้วยการจูงมือกันเข้าวัด ตั้งจิตอธิฐานขอให้รักยั่งยืนยาวนาน บรรยากาศของคู่รักที่ชอบทำบุญแบบนี้ จึงไม่แปลกที่แฟนของเรามักจะชวนเราไปทำบุญด้วยประโยคที่บอกให้ตื่นเช้าๆ แฟนตัวดีที่รักการนอนก็คงมีงอแงบ้าง แต่จะทำอะไรได้ ในเมื่อเราเป็นคู่รักสายบุญก็พร้อมสนับสนุนด้วยการพาไปทำบุญให้หนำใจกันไปเลย รับบุญแบบเต็มๆ พอได้เข้าวัดก็จะรู้สึกมีพลังในการดำเนินชีวิต แถมยังช่วยให้จิตใจรู้สึกสงบมากขึ้นจากเรื่องราวต่างๆ ที่ต้องเจอในปัจจุบัน และพอใจสะอาดแล้วก็อย่าลืมทำประกัน อุ่นใจกับความคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณีเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2,200 บาท/ปี ที่ความคุ้มครอง 1,000,000 บาท เพื่อความสบายใจที่มากกว่า สบายใจจากบุญแล้วไม่ต้องกลุ้มเรื่องชีวิตอีกต่อไป
5.สูตรการหาพื้นที่จอดรถในห้างอย่างไรให้แฟนเดินง่ายที่สุด: ”พาไปห้างหน่อย ว่าจะไปซื้อ…”
ความสัมพันธ์ฉันและเธอไม่ว่าอย่างไรก็รู้ใจได้ทุกสถานการณ์ และเราก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้คนที่เรารักมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการหาของฝากที่ถูกใจ การพาไปเที่ยว พาไปย้อนวันวานสถานที่ๆ เราเดทกันครั้งแรกๆ ด้วยความรู้สึกที่ว่าเราอยากจะอยู่ข้างๆ เธอคนนี้ตลอดไป
คปภ. เผยตัวเลขการจ่ายค่าสินไหมทดแทนผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ได้ขอความร่วมมือจากสมาคมประกันวินาศภัย บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) รายงานการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมเป็นระยะๆ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวการดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัย
ทั้งนี้ จากรายงานสรุปข้อมูลการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากสถานการณ์ อุทกภัย ปลายปี 2554 ณ วันเกิดเหตุ ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2555 มีดังนี้
1. การประกันภัยรถยนต์ ผู้เอาประกันภัยที่เรียกร้องความเสียหาย 38,687 คัน ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว 36,178 คัน คิดเป็นร้อยละ 93.51 อยู่ระหว่างการดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทน 2,509 คัน
2. การประกันภัยทรัพย์สิน-อัคคีภัยที่อยู่อาศัย ผู้เอาประกันภัยที่เรียกร้องความเสียหาย 35,668 ราย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว 25,326 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.00 อยู่ระหว่างดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทน 10,342 ราย
3. การประกันอัคคีภัยอาคารพาณิชย์และเอสเอ็มอี ผู้เอาประกันภัยที่เรียกร้องความเสียหาย 3,865 ราย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว 2,349 ราย คิดเป็นร้อยละ 60.78 อยู่ระหว่างดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทน 1,516 ราย
4. การประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) ผู้เอาประกันภัยที่เรียกร้องความเสียหาย 8,059 ราย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว 1,766 ราย คิดเป็นร้อยละ 21.91 อยู่ระหว่างดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทน 6,293 ราย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า การประกันชีวิตและการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) มีผู้เอาประกันภัยที่เรียกร้องความเสียหายทั้งสิ้น 208 ราย ซึ่งได้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนครบทุกรายแล้ว โดยรวมบริษัทประกันวินาศภัยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยแล้ว 65,827 ราย จากจำนวนผู้เอาประกันภัยที่เรียกร้องความเสียหาย 86,487 ราย คิดเป็นร้อยละ 76.11 สำหรับการประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) มีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วร้อยละ 21.91 จากจำนวนผู้เอาประกันภัยที่เรียกร้องความเสียหาย เนื่องจากผู้เอาประกันภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีทุนเอาประกันภัยสูง มีเงื่อนไขซับซ้อน เครื่องจักรที่เสียหายมีเทคโนโลยีสูง จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะ รวมทั้งปัญหาจากความชื้นและเชื้อราทำให้เครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีสูงมีความเสียหายเพิ่มมากขึ้น การประเมินความเสียหายจากผู้ประเมินวินาศภัยจึงมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดความล่าช้าในการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะติดตามประสานกับบริษัทประกันภัย และผู้ประเมินความเสียหาย ตลอดจนผู้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมต่อไป
คปภ. เตือนประชาชนอย่าประมาทภัยธรรมชาติ ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุภัยธรรมชาติขึ้นหลายครั้งในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวในภาคใต้ และพายุฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวขอให้รีบตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยว่ามีความคุ้มครองแผ่นดินไหวหรือลมพายุ โดยกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ มีดังนี้
· กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) ให้ความคุ้มครองภัยทุกชนิดได้แก่ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยจากยานพาหนะ ภัยน้ำท่วม ภัยลูกเห็บ ภัยโจรกรรม ซึ่งรวมภัยแผ่นดินไหวและภัยลมพายุด้วย
· กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิดภัยจากยวดพาหนะ ภัยจากอากาศยาน หรือภัยเพิ่มเติม อื่นๆ ซึ่งสามารถซื้อความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติเพิ่มเติมได้ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ และแผ่นดินไหว
· กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถที่เอาประกันภัยซึ่งจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย หรือ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์นอกจากประเภท 1 สามารถซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลได้ ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มตามระบุไว้ในกรมธรรม์
· กรมธรรม์รถยนต์ภาคบังคับ กรณีที่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บขณะขับขี่หรือโดยสารรถนั้น ในเบื้องต้นจะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกิน 15,000 บาท กรณีเสียชีวิตได้รับ 35,000 บาท
· กรมธรรม์ประกันชีวิตและกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตทุกกรณีรวมถึงจากเหตุภัยธรรมชาติ ส่วนกรมธรรม์ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยของผู้เอาประกันภัย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากฝากเตือนประชาชนอย่าประมาทกับภัยธรรมชาติ ถึงแม้การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลจะช่วยลดความเสี่ยงจากอุทกภัยได้ แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยยังเผชิญกับความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติอื่น เช่น แผ่นดินไหว และลมพายุ กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เป็นกลไกที่ภาครัฐจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเสียหายทางการเงินเบื้องต้นแก่ประชาชน ในกรณีเกิดภัยพิบัติ โดยการออก “กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ” ที่ให้ความคุ้มครองภัยพิบัติที่เกิดจาก แผ่นดินไหว ลมพายุ และ น้ำท่วม ประชาชนสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติได้จากบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการฯ ในราคา ที่เหมาะสมโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงของพื้นที่ ศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติเพิ่มเติมได้ที่ www.ncif.or.th หรือ โทรศัพท์ 0-2260-8899 หากมี ข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186
คปภ. เร่งรัดบริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนการประกันภัยข้าวนาปี
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยผลการประชุมระหว่างสำนักงาน คปภ. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 ทั้ง 8 บริษัท เพื่อหาแนวทางเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกร
โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 มีจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งสิ้น 56,780 ราย จำนวนพื้นที่ 1.06 ล้านไร่ จำนวนเบี้ยประกันภัย 126.85 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมามีเกษตรกรได้รับความเสียหาย จำนวน 26,615 ราย คิดเป็นพื้นที่ 532,048 ไร่ ประมาณการมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 744.87 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทประกันภัยได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่เกษตรกรไปแล้วจำนวน 21,017 รายคิดเป็นร้อยละ 79 ของจำนวนเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวม มูลค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 429.27 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 นี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องเอาประกันภัยในเนื้อที่ทั้งหมดที่ทำการเพาะปลูกในอำเภอเดียวกัน ตามที่ได้แจ้งในแบบขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ทพศ.1) โดยกรมธรรม์ประกันภัยจะให้ความคุ้มครองภัยจากธรรมชาติต่างๆ ได้แก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และอัคคีภัย แต่จะไม่รวมถึงภัยจากโรคระบาด และศัตรูพืช สำหรับตัวเลขประมาณการมูลค่าความเสียหาย 744.87 ล้านบาทนี้ เป็นตัวเลขประมาณการความคุ้มครองสูงสุดเมื่อผลผลิตได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ไร่ละ 1,400 บาท โดยบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแนภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
เลขาธิการกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสาเหตุของการจ่ายค่าสินไหมทดแทนล่าช้าเนื่องมาจากจำนวนเกษตรกรที่เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมีจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทประกันภัยจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ซึ่งได้แก่แบบประมวลรวบรวมการช่วยเหลือรายหมู่บ้าน (กษ 02) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และแบบขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ทพศ.1) ขณะนี้มีจำนวนประมาณการความเสียหายคงค้างทั้งสิ้น 315.6 ล้านบาท ที่ประชุมจึงได้กำหนดแนวทางการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยจะเร่งจ่ายค่าสินไหมทดแทนสัปดาห์ละ 100 ล้านบาท คาดว่าจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนศกนี้ สำหรับการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2555 นี้ ตั้งเป้าหมายพื้นที่การรับประกันภัยข้าวนาปี 6 ล้านไร่ อัตราเบี้ยประกันภัยอยู่ระหว่าง 190 – 250 บาทต่อไร่ โดยจะมีการขยายความคุ้มครองภัยโรคระบาดและศัตรูพืชเพิ่มขึ้นด้วย โดยเชื่อว่ารัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนเช่นเดียวกับปีที่แล้ว เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนกระทรวงการคลังจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะทันกับฤดูกาลเพาะปลูกในเดือนพฤษภาคมศกนี้
คปภ. เปิดรับฟังความคิดเห็น แก้ไขประกาศการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันวินาศภัย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดรับฟังความคิดเห็น แก้ไขประกาศ คปภ. เรื่อง การลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อให้บริษัทมีความคล่องตัวในการบริหารเงินลงทุนมากขึ้น
นางสาววราวรรณ เวชชสัสถ์ รองเลขาธิการด้านกำกับ สำนัก คปภ. เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจประกันภัยในการแก้ไขประกาศ คปภ. เรื่องการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันวินาศภัยเพื่อทบทวน 2 ประเด็นหลัก คือ
1. การกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นของบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากเป็นหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง ราคามีความโปร่งใส สอดคล้องกับลักษณะการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และที่ผ่านมาพบว่าบริษัทประกันภัยมีการวางแผนกลยุทธ์การลงทุนที่ดี เลือกลงทุนในหุ้นที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัดส่วนการลงทุนในหุ้นของบริษัท อีกทั้งหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง กำหนดว่าหากบริษัทลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง บริษัทต้องดำรงเงินกองทุนสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นหากบริษัทประกันภัยมีเงินกองทุนเพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงจากการลงทุน มีระบบงานและบุคลากรที่พร้อม สำนักงาน คปภ.จะให้ความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ตการลงทุนของบริษัท
2. การลดสัดส่วนการให้กู้ยืม (ยกเว้นการให้กู้ยืมเพื่อเป็นสวัสดิการแก่พนักงาน) เนื่องจากการให้กู้ยืมเป็นการลงทุนระยะยาว และมีความเสี่ยงสูง ไม่สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจของบริษัทประกันวินาศภัยที่เป็นระยะสั้น ดังนั้นบริษัทประกันภัยไม่ควรลงทุนโดยการให้กู้ยืมเงินมากนัก
รองเลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ประกาศว่าด้วยการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันภัย ได้รับการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดการรับประกันภัย รวมถึงสภาพเศรษฐกิจและการเงินของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป การเปิดรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายนี้ เพื่อให้บริษัทประกันภัยมีความคล่องตัวในการบริหารพอร์ตการลงทุน ประเภทและเงื่อนไขการลงทุนประกอบธุรกิจประกันภัยอื่นสามารถปฏิบัติได้จริง ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อไป
คปภ. ให้บริการสายด่วนประกันภัย 1186 ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ
ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ห่วงใยประชาชน เตือนตรวจสอบการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตลอดจนวันหมดอายุของการทำประกันภัยรถก่อนออกเดินทางท่องเที่ยว พร้อมอำนวยความสะดวกและให้บริการรับปรึกษาปัญหาด้านการประกันภัย ทางสายด่วนประกันภัย 1186 ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ที่จะถึงนี้ คาดว่ามีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด และท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ ใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยผู้ใช้รถ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้บริการปรึกษาปัญหาด้านการประกันภัย และเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลด้านการประกันภัย เพื่อให้ประชาชนและผู้เอาประกันภัยที่ประสบปัญหาในช่วงวันหยุด สามารถเข้าถึงระบบการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และทั่วถึง โดยประชาชนสามารถโทรสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186 ทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 13 – 16 เมษายน 2555 นอกจากนี้ ฝากเตือนผู้ใช้รถควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ตรวจสอบการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และวันหมดอายุของการทำประกันภัยรถ ก่อนเดินทางทุกครั้ง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น การทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยและครอบครัวได้ ที่สำคัญควรตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้ ขอแนะนำให้ประชาชนทำประกันภัย “อุบัติเหตุเดินทางอุ่นใจ” ซึ่งเป็นกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับการเดินทางในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ภายในประเทศ ที่ให้ความคุ้มครองการสูญเสียอวัยวะ สายตา ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง และค่ารักษาพยาบาล โดยมีอัตราเบี้ยประกันภัยขั้นต่ำ เช่น จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 10,000 บาท ระยะเวลาเดินทาง 1-14 วัน มีเบี้ยประกันภัยอยู่ระหว่าง 15 – 60 บาท ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ มีกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางที่ให้ผลประโยชน์ต่างๆ มากมาย เช่น การเสียชีวิต ทุพพลภาพ ค่ารักษาพยาบาล ความล่าช้าหรือสูญหายของกระเป๋าเดินทาง ความสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัว การพลาดการต่อเที่ยวบิน และค่าใช้จ่ายเมื่อการเดินทางหยุดชะงัก เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยจะจัดแผนความคุ้มครองแบบต่างๆ ให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ โดยเบี้ยประกันภัยจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ในแต่ละแบบความคุ้มครอง
>> เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน
เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
>> เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท
เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
>> เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)
ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว
คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี
โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย