Unite Linked ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน เมืองไทยประกันชีวิต


Unite Linked ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน เมืองไทยประกันชีวิต ที่ปรึกษาวางแผนสุขภาพและการเงิน ประกันคุ้มครองชีวิต ประกันตลอดชีพ

4 เหตุผลที่ต้องมีประกัน ก่อนอายุ 30

คุณรู้ไหม ทำไมถึงมีประโยคที่ว่า “30 ยังแจ๋ว” แจ๋วแบบที่ไม่ใช่แค่ชื่อเพลง และถ้าคุณได้เห็นบทความหรือฟัง Podcast ก็มักจะมีเรื่องที่เกี่ยวกับคนอายุ 30 อย่างเช่น อายุ 30 ควรมีเงินเก็บเท่าไหร่? , อายุ 30 ควรลงทุนอะไรดี, อายุ 30 ต้องดูแลสุขภาพอย่างไรบ้าง และอีกมากมายหลาย Topic ที่ว่าด้วยเรื่องที่คนอายุ 30 ต้องอ่านเพื่อการใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ

ซึ่งถ้าจะว่ากันตรงๆ แล้ว คนที่อายุย่างเข้าเลข 3 ก็ถือว่าได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้ง 30 ปี ก็ต้องมีประสบการณ์ชีวิตมาพอตัวและด้วยเรื่องของช่วงเวลานี้เอง จึงเป็นสิ่งที่บอกเราเป็นนัยๆได้ว่า ทุกสิ่งมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดของมัน เช่น การเรียนรู้ภาษาจะดีที่สุดในช่วงวัย 1-7 ปี, ศักยภาพของร่างกายจะสูงสุดในช่วง 18-25 ปี และอีกหลายสิ่งในชีวิตที่มีช่วงเวลาที่ดีที่สุด และนี่คือเหตุผลว่าทำไมวัย 30 ถึงต้องมี ไว้จะสบายใจที่สุด

1.ช่วงเวลาทองต้องตอนอายุนี้เท่านั้น

อายุ 30 เป็นช่วงอายุที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงอายุกลางๆ ของการใช้ชีวิต เป็นช่วงที่ยังมีแรงเหลือเฟือในการออกไปตะลุยโลกกว้าง เป็นช่วงอายุที่เหมาะกับการพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าในการงาน และเป็นช่วงอายุที่ต้องเริ่มโฟกัสกับการดูแลสุขภาพ ทั้งหมดนี้ดูจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจที่จะใช้ตัวช่วยในการดูแลชีวิตและสุขภาพกับการทำประกัน ซึ่งประกันที่น่าสนใจสำหรับช่วงอายุนี้ที่ต้องขอแนะนำเลยก็คือประกัน เพราะคุณต้องอย่าลืมว่าตอนนี้มะเร็งเป็นโรคที่ต้องใช้เงินในการรักษา หากเกิดเหตุการณ์ที่คุณต้องเข้ารักษาเกี่ยวกับโรคนี้ขึ้นมาในขณะที่คุณกำลังอยู่ช่วงที่เพิ่งเริ่มเก็บเงิน อาจจะเกิดปัญหาเรื่องการเงินได้ อีกข้อดีถ้าคุณทำประกันนี้ตั้งแต่ช่วงอายุนี้ เบี้ยประกันจะถูกกว่าตอนที่ไปซื้อเมื่ออายุมากกว่านี้ เบี้ยเริ่มเพียง 5 บาท/วัน คงที่ 5 ปี ซื้อออนไลน์เองง่ายใน 5 นาที สามารถลอง คำนวณดอกเบี้ย ดูก่อนได้ที่นี่เลย

2.รู้ว่าเสี่ยงเลยต้องมีไว้ก่อนอุ่นใจกว่า

อายุ 30 มักจะเริ่มเจอกับปัญหาสุขภาพ Unite Linked ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดหลัง บางคนทำงาน ไม่ค่อยได้พักผ่อน เจอความเครียดอยู่บ่อยๆ ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลง ก็เพิ่มโอกาสกระตุ้นให้เกิดโรคตามมาอีกมากมาย เราจึงได้เห็นคนอายุ 30 บางคนเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น และ ด้วยการใช้ชีวิตแบบคนวัย 30 ที่ไม่ค่อยได้โฟกัสกับการดูแลตัวเองเท่าไหร่นัก ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง ชื่นชอบการดื่มสังสรรค์ พฤติกรรมเหล่านี้ยิ่งเป็นช่องทางให้โรคมะเร็งถามหาได้ อีกทั้งยังมีข้อมูลที่ว่า ช่วง 30 มีโอกาสพบมะเร็งสูงที่สุด (ผู้หญิงที่เข้าสู่ช่วงอายุ 30-39 ปี มีจำนวนผู้ป่วย มะเร็งรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 223% แหล่งที่มาข้อมูล ทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล พ.ศ. 2560 สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ bankokbiznews) เห็นตัวเลขสูงแบบนี้ ใครเริ่มมีความกังวล มาตัดกังวลด้วยการเตรียมทำประกัน เองไว้ได้เลย รับความคุ้มครองมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ เมื่อตรวจพบครั้งแรก รับเงินก้อนไปใช้รักษา ตามแนวทางที่ คุณต้องการ สามารถทำ แบบทดลองความเสี่ยง ของคุณเองก่อนได้ที่นี่

3.ความคุ้มค่าที่ควรมี ทำไปไม่มีคำว่าเสียดาย

อายุ 30 เป็นช่วงที่หลายคนเร่งเก็บเงินเอาไว้เผื่อใช้ในอนาคต บางคนสนใจเรื่องการลงทุน ก็จะนำเงินไปลงทุนกับกองทุน กับหุ้น แต่อย่างที่เห็นกันว่าตอนนี้ ตลาดการลงทุนก็ได้รับผลกระทบจากโควิด แต่มีอีกการลงทุนที่มีแต่ได้ และไม่ขาดทุนด้วย นั่นก็คือการลงทุนให้ตัวเองด้วยการซื้อประกัน สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อลงทุนกับการซื้อประกันโรคมะเร็ง

4.จ่ายเบี้ยแต่เงินก็เหลือเอาไปลดหย่อนภาษีได้
อายุ 30 มักจะมีเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจำทุกๆ ปี อย่างภาษี ยิ่งใครมีความก้าวหน้าในการงาน ได้เงินเดือนสูงๆ ตั้งแต่อายุ 30 อาจจะต้องคำนวณเรื่องภาษีกันอย่างรอบคอบหน่อย ถ้าเห็นแล้วว่าอาจจะต้องจ่ายภาษีเยอะ อีกช่องทางที่จะช่วยลดภาระการจ่ายภาษีได้ นั่นก็คือการทำประกัน นี้ก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย โดยค่าเบี้ยประกันความคุ้มครองโรคมะเร็งลดสามารถหย่อนภาษีได้ ตามที่สรรพากรกำหนดไม่เกิน 25,000 บาท ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

สุดท้ายแล้ว ในวัย 30 ปี ควรมีอะไรบ้างอยู่ที่ตัวคุณเองเป็นคนวางแผน และกำหนด แต่เชื่อได้ว่าทุกการตัดสินใจของคุณนั้น เป็นสิ่งที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณเป็นไปในแบบที่ตัวคุณต้องการ ถ้าอย่างเป็นคนอายุ 30 ที่คนอื่นๆ อิจฉา ก็เลือกวางแผนชีวิตตัวคุณเองตั้งแต่วันนี้ได้เลย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกับ สมาคมประกันวินาศภัย ให้การสนับสนุนการจัดงานสัมมนา Critical Lessons from the Thai Floods ในวันที่ 22 มีนาคม 2555 ณ โรงแรม Renaissance ราชประสงค์ กรุงเทพฯ

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ คปภ. กล่าวปาฐกถาในการสัมมนา เรื่อง Critical Lessons from the Thai Floods ซึ่งร่วมจัดขึ้นโดย Asia Insurance Review และ Singapore Re. โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งอุตสาหกรรมประกันภัยไทย และต่างประเทศ

การจัดสัมมนาฯ ครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจประกันภัยทั้งในประเทศและต่างประเทศได้แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยใช้กรณีศึกษาจากเหตุอุทกภัย เมื่อปี 2554 ของไทย เพื่อศึกษาแนวทางในการป้องกัน และรองรับความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนเพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโอกาสเสี่ยงภัย และมาตรการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ เช่น ความสำคัญของการวางแผนรองรับภัยพิบัติ ความพร้อม และความเชื่อมั่นกับทุกภาคส่วน เป็นต้น

สำนักงาน คปภ. จัดสัมมนาชี้แจง “ขั้นตอนการดำเนินงานตามกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ” และ“สัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ” เพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้ตรงกัน ก่อนที่จะเปิดขาย

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. จัดสัมมนาชี้แจง “ขั้นตอนการดำเนินงานตามกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ” ให้กับบริษัทประกันวินาศภัย ในฐานะที่เป็นผู้รับประกันภัย เพื่อเป็นการซักซ้อมความเข้าใจร่วมกันในประเด็น ขั้นตอนการรับประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ และขั้นตอนการดำเนินงานตามสัญญาประกันภัยต่อสำหรับความเสี่ยงภัยพิบัติเกี่ยวกับการรับประกันภัย ให้เป็นไปตามขั้นตอน กฎเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ (กองทุนฯ) กำหนด โดยมีบริษัทไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บรรยายให้ความรู้ ในกรณีการรับประกันภัย การรับส่งข้อมูลการรับประกันภัย รวมถึงการประมวลผลข้อมูล และตรวจสอบความถูกต้องของการรับประกันภัยพิบัติ นอกจากนี้ ยังให้คำชี้แจง และตอบข้อซักถามในประเด็นดังกล่าวฯ แก่บริษัทประกันภัย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เกิดความโปร่งใส พร้อมให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก่อนที่จะดำเนินการเปิดขายกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ

นอกจากการจัดสัมมนาให้ความรู้แก่บริษัทผู้รับประกันภัยแล้ว ในส่วนของผู้เอาประกันภัย สำนักงาน คปภ. ได้เชิญสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมวิเคราะห์หลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัท จัดการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สมาคมอาคารชุดไทย และผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เข้าร่วมฟัง “การสัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ” ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วม สัมมนานำความรู้เรื่องโครงสร้างการรับประกันภัยพิบัติ การให้ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ รูปแบบการรับประกันภัย วิธีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน และข้อยกเว้นการรับประกันภัยพิบัติ ไปสื่อสารให้แก่ ธุรกิจ SME อุตสาหกรรม และประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และหันมาซื้อกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติมากขึ้น นอกจากนี้ การสัมมนาดังกล่าวฯ ยังได้รับเกียรติจาก อาจารย์ชูเกียรติ ทรัพย์ไพศาล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำ บรรยายให้ความรู้เรื่อง “การวางระบบการบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศ” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการบริหารจัดการน้ำของประเทศ

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ” จะให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ 3 ภัย ได้แก่ น้ำท่วม แผ่นดินไหว และลมพายุ ที่เข้าลักษณะและมีความรุนแรงถึงขั้นเป็นภัยพิบัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กองทุนฯ กำหนดเท่านั้น ซึ่งในกรณีเกิดอุทกภัยจะไม่รวมถึงทรัพย์สินที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ภาครัฐได้ให้ความช่วยเหลือโดยตรงอยู่แล้ว เช่น พื้นที่กักเก็บน้ำ หรือทางน้ำผ่าน เป็นต้น โดยรูปแบบของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ เป็นแบบจำกัดความรับผิด (Sub Limit) ที่ให้ความคุ้มครองบ้านอยู่อาศัย ในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท คิดอัตราเบี้ย ประกันภัยที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี และธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดย่อม (SME) ทุนประกันไม่เกิน 50 ล้านบาท โดยจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ไม่เกินร้อยละ 30 ของทุนประกันภัย คิดอัตราเบี้ยประกันภัยที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี ส่วนธุรกิจ (อุตสาหกรรม) ที่มีทุนประกันภัยมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป จะจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติไม่เกินร้อยละ 30 ของทุนประกันภัย โดยคิดอัตราเบี้ยประกันภัยที่ร้อยละ 1.25 ต่อปี

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ บริษัทไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) และบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว สำนักงาน คปภ. จะลงพื้นที่ไปยังนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อบรรยายให้ความรู้เรื่อง “กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ” ต่อไป

คปภ. เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย

จากเหตุเพลิงไหม้โรงแรมแกรนด์ พาร์ค อเวนิว

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงแรมแกรนด์ พาร์ค อเวนิว ซึ่งตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 22 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2555 เวลาประมาณ 22.00 น. ที่ผ่านมาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากอาการสำลักควัน และได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก นั้น

สำนักงาน คปภ. ได้เร่งติดตามข้อมูลการทำประกันภัยของตึกดังกล่าว พร้อมทั้งได้ประสานให้บริษัทที่รับสำรวจภัยเร่งสำรวจความเสียหายของตัวอาคาร เพื่อประเมินมูลค่าความเสียหาย และเร่งรัดด้านการชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าโรงแรมที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 15 ชั้น ทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินไว้กับบริษัท เอช ไอเอ็นเอ โอเวอร์ชีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด จำนวนเงินเอาประกันภัย 600,000,000 บาท และประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก จำนวนเงินเอาประกันภัย 260,000,000 บาท นอกจากนี้ยังได้ทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอกไว้กับบริษัท นิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ สาขาประเทศไทย จำนวนเงินเอาประกันภัย 40,000,000 บาท สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ได้ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ประกอบด้วย โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลเทพธารินทร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ทั้งนี้ ทายาทผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้จากบริษัทประกันภัย

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าเสียใจที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีการทำประกันภัยไว้จะช่วยบรรเทาความเสียหายโดยได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย ดังนั้นหากประชาชนหรือผู้ประกอบการจะทำประกันภัย ขอให้พิจารณาทำประกันภัยให้ครอบคลุมกับความเสี่ยงภัยที่มี ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกันภัยได้

คปภ. แจงเหตุเพลิงไหม้อาคารฟิโก้ เพลส มีประกันภัยกับบริษัทเจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) จำกัด วงเงินความคุ้มครอง 230,000,000 บาท

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารฟิโก้ เพลส เลขที่ 18/8 ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2555 เวลาประมาณ 14.30 น. สำนักงาน คปภ. ได้เร่งติดตามข้อมูลการทำประกันภัยของตึกดังกล่าว ในเบื้องต้นทราบว่าตึกที่เกิดเหตุเป็นอาคารสำนักงานแบ่งให้เช่าสูง 13 ชั้น ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ มีการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินกับบริษัท เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) จำกัด โดยมีจำนวนเงินเอาประกันภัย 230,000,000 บาท

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน คปภ. ได้ประสานผู้เช่าอาคาร เพื่อขอทราบข้อมูลการทำประกันภัยอื่นๆ พร้อมทั้งได้ประสานให้บริษัทที่รับสำรวจภัยเร่งสำรวจความเสียหายของตัวอาคาร เพื่อประเมินมูลค่าความเสียหาย และเร่งรัดด้านการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าเสียใจที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีการทำประกันภัยไว้จะช่วยบรรเทาความเสียหายโดยได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย ดังนั้นหากประชาชนหรือผู้ประกอบการจะทำประกันภัย ขอให้พิจารณาทำประกันภัยให้ครอบคลุมกับความเสี่ยงภัยที่มี ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เอาประกันภัยได้

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการประกันภัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186 หรือ www.oic.or.th

คปภ แจงผู้ประสบภัยจากเหตุรถบัสโดยสารพลิกคว่ำที่ จ.ปราจีนบุรี ได้รับความคุ้มครองจากการประกันภัย

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุรถบัสโดยสารปรับอากาศประจำทาง สายจันทบุรี-นครราชสีมา พลิกคว่ำบริเวณถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา อ.นาดีที่ จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บกว่า 22 คน นั้น

สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. ส่วนภูมิภาค เบื้องต้นทราบว่ารถบัสคันดังกล่าว ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และภาคสมัครใจ (ประเภท 3) ไว้กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด ซึ่งผู้โดยสารที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร จะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 200,000 บาทต่อราย และความคุ้มครองจากประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) จำนวน 300,000 บาทต่อราย และจากการประกันภัยอุบัติเหตุ อีกรายละไม่เกิน 100,000 บาท

ส่วนกรณีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 350,000 บาท โดยเบิกจ่ายจากประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละไม่เกิน 50,000 บาท และอีกรายละไม่เกิน 300,000 บาทจากประกันภัยรถภาคสมัครใจ ทั้งนี้ ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) สามารถเบิกจ่ายจากบริษัทประกันภัยผ่านระบบค่าสินไหมทดแทนอัตโนมัติ (E-claim) ได้ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท โดยผู้ประสบภัยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุจึงได้ประสานกับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับผู้เสียชีวิต และประสานโรงพยาบาลที่รับรักษาผู้บาดเจ็บเพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องค่ารักษาพยาบาล ต่อไป หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186

>> เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี

ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท

เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท

โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต

ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน

เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ

*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส

สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด

การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

>> เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี

ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท

เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท

โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต

Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You

พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ

>> เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)

ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว

คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%

(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี

โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด

เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์

เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *