Unite Linked เมืองไทยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี ที่ปรึกษาการเงิน


Unite Linked เมืองไทยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี ที่ปรึกษาการเงิน ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน ประกันตลอดชีพ ประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษีสูงสุด ประกันบำนาญ ประกันชั่วระยะเวลา

ก.ล.ต. อนุญาตให้ออกและเสนอขายตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ
วันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 | ฉบับที่ 106 / 2557
ก.ล.ต. เตรียมประกาศหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ depositary receipt (DR) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนมากขึ้นโดยคาดว่าจะมีผลใช้บังคับภายในไตรมาส 3 ปีนี้

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนได้เห็นชอบหลักเกณฑ์รองรับการขออนุญาตออกและการเปิดเผยข้อมูลในการเสนอขาย DR ซึ่งจะช่วยให้ตลาดทุนไทยมีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ลงทุนจะมีช่องทางในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้อย่างสะดวกมากขึ้นด้วย

สำหรับหลักทรัพย์ต่างประเทศที่จะใช้อ้างอิงในการออก DRอาจจะเป็นหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่หรือหน่วยลงทุนของอีทีเอฟต่างประเทศที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของโลก ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน DR จะต้องติดตามข้อมูลของหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ใช้อ้างอิงผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ผู้ออก DR เว็บไซต์ของหลักทรัพย์ต่างประเทศ เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อกำหนดตามสัญญารับฝากหลักทรัพย์ เพื่อให้เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือและผู้ออก DR รวมทั้งค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องด้วย

ก.ล.ต. ปรับโฉมเว็บไซต์ ?CG Thailand? ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน
วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 | ฉบับที่ 107 / 2557
ก.ล.ต. ปรับโฉมเว็บไซต์ ?CG Thailand? www.cgthailand.org เพื่ออำนวยความสะดวกให้บริษัทจดทะเบียนและผู้สนใจ เข้าถึงข้อมูลด้านการกำกับดูแลกิจการ ความรับผิดชอบต่อสังคม และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน ได้ในแหล่งเดียว เป็นการส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงเว็บไซต์ ?CG Thailand? เพื่อให้เป็นศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมาย กฎเกณฑ์ แนวปฏิบัติด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นที่ยอมรับในสากล โดยขยายขอบเขตจากการเป็นกิจการที่มีการกำกับดูแลที่ดี ให้ครอบคลุมถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนรวบรวมผลการประเมินในระดับประเทศและระดับบริษัทจดทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เผยแพร่บทความและพัฒนาการที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมี ?AC Corner? เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับกรรมการตรวจสอบอีกด้วย พร้อมกันนี้ ในเว็บไซด์ดังกล่าวมีข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่สำคัญ อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ (แบบ 59-2) การได้มาและจำหน่ายไปซึ่งหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) และประวัติการถูกทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลทาง www.cgthailand.org ได้ตั้งแต่วันนี้

?ก.ล.ต. มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงออกมาตรการและดำเนินการด้านต่าง ๆ เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนและผู้เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญและดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งการพัฒนาเว็บไซต์ CG Thailand จะช่วยให้บริษัทจดทะเบียนเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้โดยสะดวกและครบถ้วนในที่เดียวและผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ? นายวรพล กล่าว

ก.ล.ต. แก้เกณฑ์การลงทุนของกองทุนและจัดประเภทกองทุนให้สอดคล้องกับแนวทางสากล
วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2557 | ฉบับที่ 108 / 2557
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบการแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการลงทุนของกองทุนรวม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อให้สามารถรองรับพัฒนาการของตลาด เพิ่มความหลากหลายของทรัพย์สินที่จะลงทุน และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางสากลมากขึ้น

การแก้ไขหลักเกณฑ์ที่สำคัญ ได้แก่ กำหนดให้หลักเกณฑ์ประเภททรัพย์สินที่กองทุนสามารถลงทุนได้มีลักษณะเน้นกำหนดเป็นหลักการ (principle-based) มากขึ้น กำหนดหลักเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุนให้มีการกระจายการลงทุนและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น กำหนดให้หลักเกณฑ์การจัดประเภทกองทุนสะท้อนความเสี่ยงการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น โดยพิจารณาจากฐานะการลงทุนสุทธิในทรัพย์สินต่างๆ แทนการกำหนดตามมูลค่าการลงทุน รวมทั้งยกเลิกการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนสถาบัน (“MF สำหรับ non-retail”) เพื่อลดความซ้ำซ้อนกับกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย ที่เสนอขายกับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ที่เสนอจะมีผลใช้บังคับในอีก 1 ปี หลังจากวันที่ลงนามประกาศ เพื่อให้บริษัทจัดการมีเวลาปรับปรุงระบบการดำเนินงาน ขณะที่การยกเลิกการจัดตั้ง MF สำหรับ non-retail จะมีผลเมื่อมีการประกาศใช้บังคับ

ก.ล.ต. สั่งให้ RICHY แก้ไขแบบ filling และขยายเวลาจองซื้อหุ้น
วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2557 | ฉบับที่ 109 / 2557
ก.ล.ต. สั่งให้บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) แก้ไขข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในแบบ filing ในส่วนของการเปรียบเทียบค่าพีอีของบริษัทและของอุตสาหกรรมให้เป็นช่วงเวลาเดียวกัน และให้ขยายเวลาจองซื้อหุ้น IPO ต่อไปอีกอย่างน้อย 2 วัน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่เหมาะสมและมีเวลาใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. สั่งให้บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY แก้ไขข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) โดยให้เปรียบเทียบอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (พีอี) ของ RICHY และของภาคอุตสาหกรรมในช่วงระยะเวลาเดียวกัน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยในแบบ filing ในช่วงเวลาการขายหุ้น IPO เป็นการคำนวณค่าพีอีของบริษัทจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง เปรียบเทียบกับค่าพีอีเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในช่วงระยะเวลา 24 เดือน

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. สั่งให้ RICHY ขยายระยะเวลาการจองซื้อหุ้น IPO ออกไปอีกไม่น้อยกว่า 2 วันทำการ นับแต่วันที่ได้แก้ไขข้อมูลแล้ว เพื่อให้ผู้ลงทุนมีเวลาพิจารณาข้อมูลใหม่และทบทวนการตัดสินใจลงทุน โดยผู้ลงทุนที่ได้จองซื้อหุ้นไปแล้วและเปลี่ยนใจไม่ลงทุนหลังได้รับข้อมูลใหม่ สามารถขอคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นจากบริษัทได้ นอกจากนี้ หากการแก้ไขข้อมูลในแบบ filing และขยายระยะเวลาซื้อหุ้น IPO ทำให้ RICHY ต้องเลื่อนวันเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทต้องให้ข้อมูลดังกล่าวแก่ผู้ลงทุนด้วย

ก.ล.ต. ให้บริษัทไทยเสนอขายหุ้นใน ASEAN ได้โดยใช้แบบ filing ตามมาตรฐาน ASEAN
วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2557 | ฉบับที่ 99 / 2557
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) เพื่ออำนวยความสะดวกให้บริษัทไทยที่จะเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในประเทศและในประเทศสมาชิกอาเซียน ใช้แบบ filing ตามมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลอาเซียน (ASEAN Disclosure Standards) ได้ โดยเสนอขายพร้อมกันหรือในเวลาใกล้เคียงกันภายใต้กรอบ ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) ทำให้สามารถใช้แบบ filing ชุดเดียวกันยื่นต่อหน่วยงานกำกับตลาดทุนในแต่ละประเทศ โดยต้องจัดทำแบบ filing เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้มีข้อมูลไม่แตกต่างกันอย่างมีสาระสำคัญ รวมทั้งจัดทำข้อมูลสรุป (executive summary) และแจกจ่ายให้ผู้ลงทุนพร้อมใบจองซื้อ ตลอดจนให้กรรมการทุกคนลงนามรับรองความถูกต้องของแบบ filing ด้วย

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นภายใต้กรอบ Unite Linked
ACMF หมายถึง การเสนอขายหุ้นในประเทศกลุ่มอาเซียนที่จะร่วมกันลงนามในข้อตกลง (“MoU”) เกี่ยวกับแนวทางการพิจารณาให้บริษัทออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียนตั้งแต่สองประเทศพร้อมกันหรือในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งคาดว่าไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะมีการลงนามใน MoU ดังกล่าวในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้

เปรียบเทียบแผนการลงทุน ที่รู้งี้ไม่มีเสียเวลา

“ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” คติที่เราได้ยินจนชินหู แต่คำนี้มันมีความหมายที่กว้างกว่านั้น ครอบคลุมทั้งในมุมของชีวิตหรือแม้แต่การลงทุน และในเมื่อเวลาเป็นเงินเป็นทองเสียขนาดนี้ เรากำลังทำอะไรที่เสียเวลาอยู่หรือเปล่า มาลองสำรวจตัวเองกันดูสักหน่อยว่าตอนนี้อะไรที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า และอะไรที่คุณกำลังทำแล้วเสียเวลาเปล่า เพื่อวางแผนการใช้เวลากันใหม่ให้คุ้มค่ากว่าที่ผ่านมา

Mindset เวลาคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด

ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตโดยอิงตามเวลา ใช้เวลาเป็นเครื่องกำหนดในการทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “เวลา” ในการตื่น “เวลา” ในการเดินทาง “เวลา” ในการทำงาน รวมไปถึง “เวลา” ในการใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เราลงทุนด้วยการใช้เวลาเป็นตัวแปรในการเติมเต็มการมีชีวิต และเราก็คงไม่อยากให้เกิดสถานการณ์เสียเวลาเปล่าไปกับอะไรที่ไม่คุ้มค่า ทุกเวลา ทุกนาทีจึงต้องให้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุด ดังนั้นในบทความนี้คุณจะได้รู้ว่าใช้เวลากับอะไรแล้วเกิดประโยชน์มากที่สุด

เรากำลังใช้เวลาแลกกับอะไร?

คุณเคยรู้สึกว่ามีเวลาเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอหรือไม่ รู้สึกว่าฉันอยากได้เวลาที่มากกว่านี้ ถ้ามีเวลาเพิ่มฉันต้องทำมันได้ดีแน่ ๆ ความรู้สึกเหล่านี้แท้ที่จริงมันอาจจะเกิดจากการที่เรากำลังใช้เวลาแบบเสียเปล่าอยู่ก็ได้ ก็ในเมื่อเราทุกคนมีเวลาเท่ากัน แต่ทำไมบางคนกลับบริหารเวลาได้จนชีวิตประสบความสำเร็จ กลับกันกับอีกคนที่ก็มีเวลาเท่ากัน แต่กลับมีชีวิตที่ล้มเหลว ซึ่งถ้าเราใช้เวลาแลกกับสิ่งที่เหมาะสมมันก็จะมีแต่ความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชีวิต การทำงาน สุขภาพ การเงิน และยิ่งเฉพาะกับเรื่องของการลงทุนที่เวลาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ก็ยิ่งต้องมีเวลาที่เพียงพอ

คิดก่อนใช้ ‘เวลา’

ว่าไปแล้วถ้าคุณอ่านบทความมาจนถึงประโยคนี้ คุณก็คงได้ใช้เวลาไปหลายนาทีแล้ว งั้นมาทำเวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุด แม้ว่าในแง่มุมของชีวิตเราไม่อาจแนะนำใครได้ว่าควรใช้เวลาเพื่อแลกกับอะไรเพราะแต่ละคนมีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ถ้าหากในแง่มุมของการลงทุนเราสามารถที่จะเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ว่าในช่วงเวลาที่เสียไป คุณจะได้อะไรกลับมาบ้าง

• 15 วัน สลากกินแบ่งรัฐบาล ผลตอบแทน 200% (โอกาสถูก 1%) ลงทุนได้บ่อย แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมาไม่เคยได้บ่อยเลย โอกาสขาดทุนมากกว่ากำไร แถมยังต้องใช้แต้มบุญในการลงทุนด้วย สุดท้ายสลากกินแบ่งก็มักจะ “กินไม่แบ่งกันอีกแล้วนะ” กับเราเสมอ ใครอยากลงทุนทางนี้ต้องคิดดี ๆ กันหน่อย

• 30 วัน เงินเดือนออกผลตอบแทน 0% นับเป็นรายรับได้อย่างเดียว เพราะสุดท้าย เงินเดือนอาจจะเหมือนเงินทอน เพราะเหล่าบรรดา ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ รวมทั้งบัตรเครดิต ยืนรอเป็นเจ้าหนี้คุณอยู่ในทุก ๆ รอบบิล จ่ายแล้วก็เหมือนปลดหนี้ แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ อีก ต้องใช้พลังเวลาในการเก็บหอมรอมริบมาก ๆ เงินนี้ถึงจะงอกเงย

• 1 ปี โบนัสออก ผลตอบแทน 0% เพราะเจอคำว่า “ปีนี้ไม่มีโบนัสนะคะน้อง” อย่างที่รู้กันเจ้าโควิดน่ะมันร้าย ใครที่วางแผนเอาเงินโบนัสมาใช้ให้ทำใจไว้ก็ดี ปีนี้คงได้ยากขึ้นมาหน่อย แค่ทุกวันนี้ยังมีงานทำ มีเงินเดือนก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ดังนั้นเอาเวลารอโบนัส ไปหาช่องทางลงทุนอื่นดีกว่า

• 1 ปี เงินปันผลบัญชีออมทรัพย์ ผลตอบแทน 0.15% ยอดดอกเบี้ยจุ๊บจิ๊บน่ารัก อยากจะบอกจังว่า “ช่างมีน้ำใจ” ให้ดอกเบี้ยเงินฝากเราขนาดนี้ แต่กี่ปีจะรวยกันนะ เพราะเอาจริง ๆ มันก็ช่างเล็กน้อยเหลือเกิน เหมาะกับการใช้เป็นแค่ช่องทางรับเงินเดือน

• 3 ปี ย้ายงาน ขึ้นเงินเดือน ผลตอบแทน 15% – 20% ดูเปอร์เซ็นต์ที่ได้ก็สูงอยู่นะ แต่ช่องทางการลงทุนนี้มีความเสี่ยงนะ เพราะถ้าเกิดสุดท้ายย้ายงานไปแล้วมันไม่รอด หรือทำงานรอดนะ แต่ปริมาณงานที่ทำบวกมันยังคุ้มค่ากับเงินที่ได้อยู่ใช่ไหม หรือสุดท้ายทำงานที่ใหม่ไปได้สวยเลย รู้สึกอยากขอขึ้นเงินเดือน มั่นใจเดินไปขอเจ้านายสุดท้ายโดยตอบกลับว่า “พี่ให้ได้แค่นี้นะ” จะพาลเสียศูนย์และกลายเป็นเรื่องเสียเวลาไปอีก

กฎของ​เวลา​ คือมันจะไม่ย้อนกลับ ไม่ว่าช่วงเวลานั้นจะมีค่ามากแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นเราจึงต้องใช้ทุกเวลาที่กำลังค่อย ๆ ผ่านไปอย่างคุ้มค่า เพื่อที่ในอนาคตเราจะได้ไม่ต้องมาเสียดายเวลาที่ผ่านมา และในเมื่อเรารู้แล้วว่าเราต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าอย่างไร ก็จงเต็มที่ไปกับการทำสิ่งนั้นจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป

เสริมความมั่นใจไปกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี

ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วันละไม่ถึง 59 บาท

เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท

โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต

ไม่ว่าอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหน

เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ

*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส หรือแบบ ดี เฮลท์ พลัส

สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด

การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

เสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครอง โรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามต้องการตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท สมัครได้ถึงอายุ 90 ปี* คุ้มครองสุขภาพยาว ๆ ต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี* พร้อมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี

ตัวอย่างค่าเบี้ย เพศหญิงอายุ 35 ปี วันละไม่ถึง 59 บาท

เลือกความคุ้มครองสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส แผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท

โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบครั้งใดครั้งหนึ่ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี

เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต

Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You

พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ

เสริมความมั่นใจไปกับ เหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า คุ้มครองทั้งโรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ พร้อมดูแลค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครึ่งล้าน(1) เบี้ยวันละไม่ถึง 42 บาท(2)

ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ ทั้งชดเชยรายวัน คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก OPD หรือคุ้มครองโรคร้าย Multiple CI ก็เลือกได้ตามใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาหรือสูญเสียรายได้หากต้องลาหยุด เลือกจ่ายแบบรายเดือนได้สบาย ๆ ตามที่ไหว

คุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง 500,000 บาท(1)
ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน(1) และรับเพิ่ม 2 เท่า หากเข้าพักในห้อง ICU
คุ้มครองเยอะขนาดนี้ แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยแบบสบายๆ เลือกจ่ายแบบรายเดือนก็ได้
ซื้อวันนี้ผ่อนค่าเบี้ยสบาย ๆ 0% นานสูงสุด 6 เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%

(1) สำหรับแผนความคุ้มครอง 3 โดยเป็นวงเงินต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง

(2) สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศหญิง 30 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 3 และชำระเบี้ยประกันรายปี

โครงการเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ แบบ เอ็กตร้าแคร์ (N)
ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด

เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์

เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตและธนาคารกำหนด
โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

ก.ล.ต. เผยผลงานวิจัยจุฬาฯ ระบุคนไทยควรเพิ่มสัดส่วนลงทุนสินทรัพย์ผลตอบแทนสูงตั้งแต่อายุน้อย

วันพุธที่ 6 สิงหาคม 2557 | ฉบับที่ 110 / 2557

ก.ล.ต. ร่วมกับ 4 สถาบันการศึกษา เริ่มครั้งแรกกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัด ?SEC Working Papers Forum ครั้งที่ 1? เผยแพร่ผลงานวิจัยหัวข้อ ?การออมเพื่อการเกษียณอายุ? พบการออมและการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นปัจจัยสำคัญต่อความเพียงพอในวัยเกษียณ และควรเร่งให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงและการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงผลตอบแทนสูงรองรับการเกษียณอายุ

ดร. วรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า งานสัมมนา SEC Working Papers Forum ครั้งที่ 1
ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในประเด็น ?การออมเพื่อการเกษียณอายุ? ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันเตรียมความพร้อม ทั้งการกำหนดนโยบาย การออกผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนให้ประชาชนเห็นความสำคัญ โดยผลการศึกษานี้ ชี้แนะแนวทางเพื่อนำไปประยุกต์กับการพัฒนากลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจให้ผู้ออมเพิ่มเงินออมมากกว่าที่กำหนด และเลือกลงทุนสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น เพื่อให้ได้รับประสิทธิผลจากเงินออมที่ดีขึ้น และเพียงพอสำหรับชีวิตวัยเกษียณ รวมทั้งส่งเสริมการให้ความรู้เรื่องผลตอบแทนการลงทุนและความเสี่ยงในสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง เพื่อเตรียมพร้อมประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย

ดร. พรอนงค์ บุษราตระกูล หัวหน้าทีมผู้วิจัย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การศึกษาได้จำลองสถานการณ์การออมและการลงทุนของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นข้าราชการและมีการออมเพื่อเกษียณอายุแบบบังคับ ผ่านการบริหารจัดการโดยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เพื่อตอบคำถามงานวิจัยสองประเด็นหลักได้แก่ ผลกระทบเมื่อมีการปรับเปลี่ยนให้สัดส่วนเงินออมที่กำหนด จากร้อยละของเงินเดือนในอัตราคงที่ตลอดเวลาของการออม เปลี่ยนเป็นค่าที่ผันแปรได้โดยให้ผกผันกับอายุ กล่าวคืออายุน้อยสัดส่วนร้อยละของการออมต่อเงินเดือนสูงและปรับลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ประเด็นที่สองคือ ผลกระทบเมื่อมีการปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงโดยให้ผกผันกับอายุ กล่าวคืออายุน้อยสัดส่วนร้อยละของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงและปรับลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น

จากผลการศึกษาพบว่า การปรับแผนการลงทุนที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยมให้เป็นเชิงรุกมากขึ้นจะส่งผลต่อความเพียงพอในวัยเกษียณมากขึ้น โดยเฉพาะการเริ่มออมตั้งแต่อายุน้อยพร้อมกับการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น ให้มีระยะเวลาการลงทุนนานขึ้น จากการศึกษายังพบว่าแผนการลงทุนที่ปรับสัดส่วนการลงทุนตามอายุโดยอัตโนมัติเหมาะกับผู้ออมที่ขาดความรู้ทางการเงินและมีพฤติกรรมเฉื่อยชาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างชัดเจนในกลุ่มผู้มีอายุน้อย และอายุมากใกล้เกษียณจะมีความเสี่ยงลดลง ทีมวิจัยมีข้อเสนอแนะว่า ผู้กำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการออมเพื่อเกษียณอายุควรกำหนดกรอบ และคุณสมบัติของแผนลงทุนหลักที่มีความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ สามารถสะท้อนถึงทัศนคติ และการยอมรับความเสี่ยงได้ของสมาชิกแต่ละราย และหรือครอบคลุมสมาชิกโดยส่วนใหญ่ได้ ซึ่งผลการวิจัยที่ได้น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการออมและการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุได้ดีขึ้น

หมายเหตุ: การเผยแพร่งานวิจัยเป็นการดำเนินงานตามบันทึกความร่วมมือระหว่าง ก.ล.ต. กับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ 4 แห่ง ประกอบด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัย แลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างภาควิชาการกับผู้บริหารในตลาดทุน และนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตลาดทุน

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกณฑ์ secondary listing

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *